คอลัมน์ มองอย่างเซียน

เชิด ขันตี ณ พล

ในแวดวงพระเครื่องเมืองมหาสารคาม ขนานนามเซียน “ดาว ลำปาง” นามจริง “อดิศร วัฒนบุตร” ชาวมหาสารคามโดยกำเนิด เซียนพระหนุ่มใหญ่วัย 57 ปี

สาเหตุที่ได้ฉายานาม “ดาว ลำปาง” เนื่องจากอดีตเคยรับราชการครูอยู่ที่ จ.ลำปาง นานกว่า 20 ปี ปัจจุบันเป็นนักกิจกรรม ทำงานกับมวลชน รวมทั้งสะสมแลกเปลี่ยน พระเครื่อง จนเป็นที่รู้จักของบรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องเมืองมหาสารคาม ได้รับการยอมรับว่าเป็นเซียนพระคนหนึ่งที่รู้จริงทั้งพระกรุและพระเกจิคณาจารย์ท้องถิ่น

ล่าสุดเตรียมเปิดศูนย์อนุรักษ์พระเครื่องพระบูชาให้บริการลูกค้ารับซื้อขายแลกเปลี่ยน วัตถุมงคลทุกประเภท ที่ชั้น 1 ห้างเสริมไทยคอมเพล็กซ์ จ.มหาสารคาม

“ดาว ลำปาง” เล่าถึงเส้นทางการเข้า สู่วงการพระเครื่อง ว่า ให้ความสนใจ พระเครื่องมาตั้งแต่สมัยย่างวัยรุ่น เนื่องจากยามมีเวลาว่าง ครอบครัวมักจะตระเวนไปทำบุญไหว้พระตามวัดต่างๆ ทั่วภาคอีสานเป็นประจำ รวมทั้งวัดที่มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังจำพรรษาอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่วัดเหล่านี้มักจะมีวัตถุมงคลของพระเกจิอาจารย์วางไว้ในตู้ให้เช่าบูชา เป็นจุดเริ่มต้นทำให้สนใจสะสมวัตถุมงคลสายภาคอีสานและท้องถิ่น

แต่ที่เริ่มสะสมพระเครื่องอย่างจริงจัง เมื่อกว่า 30 ปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่ไปบรรจุรับราชการครูที่ จ.ลำปาง มีโอกาสเข้าไปเป็นศิษย์รับใช้ใกล้ชิด หลวงพ่อเกษม เขมโก สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง ให้ความเลื่อมใสศรัทธาในวัตรปฏิบัติของท่านเป็นอย่างมาก จึงเริ่มเก็บสะสมวัตถุมงคลหลวงพ่อเกษม เขมโก เคยได้รับวัตถุมงคลหลวงพ่อเกษม เขมโก รุ่นพระมงคลเกษม 2 เนื้อผงจากมือท่าน จึงรักและหวงแหนมาก และยามว่างจากงานสอนที่โรงเรียน จะศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับพระเครื่องวัตถุมงคลจากหนังสือพระด้วยตนเอง ทั้งพระเกจิคณาจารย์ และพระกรุ เป็นความรู้ประดับสติปัญญา

ภายหลังลาออกจากราชการ เซียนดาว เดินทางกลับมาอยู่มหาสารคามบ้านเกิด เมื่อปี 2545 เริ่มสะสมวัตถุมงคลสายมหาสารคาม ทั้งพระเกจิคณาจารย์ท้องถิ่น ที่เป็นเหรียญยอดนิยม อาทิ เหรียญหลวงปู่ซุน วัดบ้านเสือโก้ก, เหรียญหลวงปู่สา วัดบ้านเหล่า, เหรียญหลวงปู่สิงห์ คัมภีโร วัดศรีสุข เป็นต้น รวมทั้งให้ความสนใจพระกรุพระธาตุนาดูน อ.นาดูน จ.มหาสารคาม เนื่องจากกระแสการเช่าหาแรง

จากข้อมูลที่ศึกษาพบว่า พระกรุนาดูน เป็นพระกรุเดียวในประเทศไทยที่พบพระบรมสารีริกธาตุอยู่ในกรุ จึงเป็นพระกรุที่เก่าแก่ที่สุดยุคศิลปะทวารวดีประมาณ 1,000-1,200 ปี มีการแตกกรุออกมาครั้งใหญ่ในปี 2522 ที่บริเวณกลางทุ่งนา พบทั้งพระกรุและพระบรมสารีริกธาตุ

“การที่ผมเน้นเช่าหาพระกรุนาดูน เนื่อง จากเป็นพระกรุท้องถิ่น มีโอกาสได้เห็นได้สัมผัสพระแท้ได้เรียนรู้มวลสาร พิมพ์ ทรงทำให้เกิดความชำนาญง่ายกว่าพระกรุ ต่างถิ่น”

เซียนดาวเล่าอีกว่า การเช่าหาพระกรุนาดูน ปัจจุบันนักสะสมวัตถุมงคลให้ความสนใจเช่าหากันในวงกว้างมากขึ้น แต่ตลอดเวลาพระกรุนาดูนที่เข้าสู่ตลาดพระส่วนใหญ่จะอยู่ในสภาพแตกหักไม่ค่อยสมบูรณ์ เช่น พระแผงก็มีการนำมาตัดแบ่งเลี่ยมขึ้นคอ แต่ราคาเช่าหาก็ยังสูงเป็นหลักพันหลักหมื่น ส่วนพระที่สภาพสวยสมบูรณ์ถูกเก็บหมด นานครั้งจึงจะมีหมุนเวียนเข้ามาในตลาดพระ แต่ราคาเช่าก็สูงมาก ปัจจุบันพระกรุนาดูน ถูกบรรจุเข้าทำเนียบงานประกวดพระเครื่องมาโดยตลอด

เมื่อตลาดมีความต้องการสูงและพระหา ได้ยากขึ้น ราคาจึงขยับสูงขึ้น หลายปีที่ผ่านมา มีพระนาดูนเก๊ออกมาอาละวาด ส่วนใหญ่จะปั๊มใหม่ และอ้างว่าเป็นพิมพ์พิเศษไม่มีในสารบบ นักสะสมในพื้นที่พิจารณาแยกแยะได้ แต่ที่ตกเป็นเหยื่อ คือ นักสะสมต่างถิ่น เพราะไม่เคยเห็นหรือสัมผัสพระแท้ จึงขาดความชำนาญการพิจารณาเนื้อหาและพิมพ์ทรง

สำหรับพระเครื่องที่แขวนห้อยคอของเซียนดาว คือ พระแผงกรุนาดูนตัด มีพระอยู่เก้าองค์ รวมทั้งพระเนื้อผงหลวงพ่อเกษม เขมโก, เครื่องรางสิงห์งาแกะหลวงพ่อเดิม และตุ๊กแกหลวงพ่อคลื้น วัดสังโฆ

“นักสะสมที่สนใจพระกรุพระธาตุนาดูน ควรเช่าหาจากศูนย์พระเครื่องในพื้นที่ หรือศูนย์พระเครื่องที่ได้มาตรฐานไว้ใจได้มีการรับประกันความแท้ ประเภทวางขายราคาถูกจำนวนมาก สันนิษฐานได้เลยว่าของปลอมร้อยเปอร์เซ็นต์” เซียนดาวกล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน