สวัสดีครับ ท่านผู้อ่านที่รักทุกท่าน พระตระกูลเนื้อผงที่เป็นพระเก่าแก่ ยิ่งมีความสัมพันธ์กับวัดระฆังฯ นั้น จะได้รับความสนใจกันมาก และโดยส่วนมากก็จะมีสนนราคาสูง แม้แต่ว่าจะมีการสร้าง ยุค หลังๆ เช่น พระสมเด็จอนุสรณ์ 100 ปี ที่สร้างในปี พ.ศ.2505 หรือพระสมเด็จวัดบางขุนพรหม ปี พ.ศ.2509 ก็ตามล้วนแล้วแต่มีราคาค่านิยมสูงทั้งสิ้น ไม่ต้องพูดถึงพระที่สร้างในยุคเก่าๆ
เช่น พระของหลวงปู่ภู วัดอินทร์นะครับ เนื่องจากสนนราคาสูงมากทีเดียว สำหรับพระเนื้อผงเก่าๆ ที่มีความสัมพันธ์กับวัดระฆังฯ ที่ยังพอมีราคาไม่สูงพอที่จะจับต้องและเช่าหาบูชาได้มีไหม? เช่น ราคาหลักพันคำตอบก็คือมีครับ และเป็นพระเก่าเสียด้วย แต่อาจจะขาดความสนใจหรือค้นคว้าหาประวัติ ขาดการเผยแพร่ต่างๆ จึงทำให้หลายๆ ท่านขาดความชัดเจนทางประวัติการสร้าง เอาล่ะครับเราลองมาศึกษากันไปพร้อมๆ กันนะครับว่าเป็นพระอะไร ประวัติความเป็นมามีอย่างไร น่าสนใจหรือไม่
วัดอัมพวัน ต.บางอ้อ อ.บ้านนา จ.นครนายก วัดแห่งนี้เป็นวัดเก่าแก่ ซึ่งประวัติการสร้างนั้นรางเลือนมาก เท่าที่สอบถามดูก็น่าจะเป็นวัดที่สร้างมาตั้งแต่สมัยอยุธยายุคปลาย หรือต้นกรุงรัตน โกสินทร์ จากการสอบถามผู้เฒ่าผู้แก่ ที่ได้รับคำบอกเล่าต่อๆ กันมานั้นว่า แต่แรกมีเพียงศาลาเก่าและกุฏิอย่างละหลัง พระอุโบสถที่ปฏิสังขรณ์ในยุคของสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (ม.ร.ว.เจริญ อิศรางกูรฯ) อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ ที่บานประตูแกะสลักปี พ.ศ.ไว้ว่า พ.ศ.2466
สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ ท่านเป็นคนพื้นเพในแถบนี้ และที่วัดท่าทราย (ชาวบ้านเรียกว่า วัดโรงเจ้า) แถบวัดอัมพวันนี้จะมีหลักฐานปรากฏแน่ชัดคือ อนุสาวรีย์หม่อมเจ้าถึก โยมบิดาของท่าน ที่ด้านบนอนุสาวรีย์เป็นที่บรรจุอัฐิของหม่อมเจ้าถึก อิศรางกูรฯ ด้านล่างโดยรอบก็บรรจุอัฐิของตระกูลอิศรางกูรฯ รวมทั้งของ ม.ร.ว. จรัส น้องชายของท่านด้วย
จึงเป็นหลักฐานยืนยันพื้นเพของเจ้าประคุณสมเด็จพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) ได้เป็นอย่างดี ที่วัดอัมพวันนี้ สมเด็จพระมหาสมณเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส สมเด็จพระสังฆราชท่านเคยเสด็จเรือไปประทับแรมอยู่หลายครั้ง และแม้แต่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ (ร.6) ท่านก็เคยเสด็จทางเรือไปประทับแรมด้วยเช่นกัน และยังได้พระราชทานพระบรมฉายาลักษณ์ไว้เป็นหลักฐานทั้งสองพระองค์
วัดอัมพวันแห่งนี้จึงเคยเป็นวัดสำคัญ วัดหนึ่งและเป็นที่รู้จักของเจ้านายหลายพระองค์ในสมัยนั้น
ครับเรามาศึกษาประวัติของพระเครื่องเนื้อผงที่แตกกรุออกมาจากองค์พระเจดีย์ของวัดอัมพวันกัน จากบันทึกคำบอกเล่าของคุณลุงพรหม งามอ่อนศรี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ต.บางอ้อ บันทึกไว้ว่า เมื่อตอนที่ท่านอายุได้ 13 ปี วัดอัมพวันมีพระครูวิสุทธิ ธรรมธาดา (หลวงปู่จันทร์) เป็นเจ้าอาวาส พร้อมด้วยหลวงตาเณร (ก่อนอุปสมบทมีบรรดาศักดิ์เป็น หลวงนา) พร้อมด้วย พระลูกวัดอีก 2 รูป และตัวคุณลุงพรหม ได้เดินทางเข้าบางกอกโดยเรือแจว เพื่อไปรับพระเนื้อผงที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ จัดสร้างขึ้นที่วัดระฆังฯ ในครั้งแรกสมเด็จท่านตั้งใจว่าจะบรรจุไว้ที่วัดระฆังฯ
ต่อมาหลวงปู่จันทร์ได้พบเจ้าประคุณสมเด็จและแจ้งให้ทราบว่า ในขณะนั้นทางวัดอัมพวันดำริ จะก่อสร้างสถูปเจดีย์และปฏิสังขรณ์พระอุโบสถหลังเก่า จึงอยากจะหาวัตถุมงคล เข้าบรรจุในองค์พระเจดีย์ เพื่อเป็นการสืบอายุพระศาสนา สมเด็จท่านจึงได้เห็นเหมาะสมและได้มอบพระผงพิมพ์นี้มาให้หลวงปู่จันทร์นำไปบรรจุไว้ที่องค์พระเจดีย์วัดอัมพวัน
หลังจากที่องค์พระเจดีย์สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ม.ร.ว.จรัส อิศราง กูรฯ น้องชายของสมเด็จท่าน ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้วัด ได้ไปกราบนมัสการนิมนต์สมเด็จท่านมาเป็นประธานในการบรรจุ มีการสมโภชอยู่หลายวัน โดยมีสมเด็จท่านพักอยู่ที่วัด จนเสร็จพิธี
ส่วนเรื่องของส่วนผสมของ พระว่าจะมีผงวิเศษของท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ผสมอยู่ด้วยหรือไม่นั้น ไม่มีหลักฐานยืนยันแต่ก็น่าจะสันนิษฐานได้ว่าน่าจะมีอยู่บ้าง เนื่องจากสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) ท่านก็เป็นศิษย์ใกล้ชิดอยู่กับเจ้าประคุณสมเด็จและก็เป็นเจ้าอาวาสวัดระฆังฯ สืบต่อจากสมเด็จพระพุทธบาท ปิลันทน์
สำหรับการแตกกรุของพระกรุนี้ ก็มีการแตกกรุมาหลายปีแล้ว ท่านเจ้าอาวาสขณะนั้นก็ได้แจกจ่ายให้แก่ชาวบ้าน และผู้ที่มีจิตศรัทธาสมทบทุนสร้างพระอุโบสถหลังใหม่
พระพุทธลักษณะของพระเนื้อผงพิมพ์นี้เป็นรูปทรงสามเหลี่ยม มีองค์พระประทับนั่งปางสมาธิบนฐานเขียง พระที่ออกมาจากกรุมักจะมีคราบดินกรุ และคราบสีน้ำตาลจับอยู่บนองค์พระ ผิวพระมักจะยุ่ยๆ ฝ่อๆ พรุนๆ เนื่องจากอาจจะมีความชื้นจากน้ำท่วมก็เป็นได้ องค์สวยๆ นั้นค่อนข้างหายากสักหน่อย
สำหรับสมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ (เจริญ) ท่านก็คือผู้ที่สร้างพระวัดระฆังหลังค้อน อันมีชื่อเสียงโด่งดังครับ ปัจจุบันพระวัดระฆังหลังค้อน สวยๆ นั้นราคาหลักหมื่นครับ แต่พระสมเด็จพิมพ์เล็บมือ กรุวัดอัมพวันนี่สภาพทั่วไปก็ยังอยู่ที่หลักพัน ที่สวยๆ ก็อาจจะแพงกว่าเขาสักหน่อย ปัจจุบันก็ยังหาเช่าไม่ยากนักครับ
พระสมเด็จพิมพ์เล็บมือ กรุวัดอัมพวันจึงเป็นพระที่น่าบูชามาก ประวัติความเป็นมาแน่ชัด เก่าแก่ ในวันนี้ผมก็ได้นำรูปพระมาให้ชมกันครับ
ด้วยความจริงใจ
แทน ท่าพระจันทร์