มงคลข่าวสด

วันเสาร์ที่ 26 สิงหาคม 2560 เป็นวันมงคล “สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์” จะมีอายุครบรอบ 92 ปี ศิษยานุศิษย์และผู้ที่เคารพเลื่อมใสจะได้ร่วมกันจัดงานมุทิตาสักการะอายุวัฒนมหามงคล เป็นประจำทุกปี

ปัจจุบัน สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) สิริอายุ 92 ปี พรรษา 72 ดำรงตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม และเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

มีนามเดิมว่า ช่วง สุดประเสริฐ เกิดเมื่อวันที่ 26 ส.ค.2468 ที่บ้านเลขที่ 32 ต.ราชาเทวะ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ เป็นบุตรชายคนที่ 2 ในจำนวนพี่น้อง 4 คน ของนายมิ่งและนางสำเภา สุดประเสริฐ

ขณะที่มีอายุ 7 ขวบ นายมิ่งผู้เป็นบิดาถึงแก่กรรมลง ญาติจึงให้บรรพชาหน้าไฟตามประเพณี หลังเสร็จสิ้นพิธีศพแล้ว พี่ชายก็ลาสิกขา แต่ท่านยังคงบรรพชาอยู่ระยะหนึ่งแล้วจึงลาสิกขาตาม

หลังจากนั้น ชีวิตเริ่มผูกพันกับวัดในละแวกใกล้บ้าน คือ วัดสังฆราชา และวัดลาดกระบัง และสำเร็จการศึกษาชั้น ป.4 ของโรงเรียนประชาบาลวัดสังฆราชา

ครั้นอายุ 14 ปี จึงบรรพชาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 1 พ.ค.2482 ที่วัดสังฆราชา เขตลาด กระบัง กรุงเทพฯ โดยมีพระครูศีลาภิรัต วัดลาดกระบัง เป็นพระอุปัชฌาย์

จากนั้น มุ่งศึกษาพระปริยัติธรรมและสอบนักธรรมชั้นตรี-โท ระหว่างนั้น ได้ทราบกิตติคุณของหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ จึงเกิดความปรารถนาจะเข้ามาศึกษาต่อภายใต้ร่มบารมีธรรม

พ.ศ.2484 ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่วัดปากน้ำ โดยพระแจ่ม วัดสังฆราชา เป็นผู้นำมาฝากกับหลวงพ่อวัดปากน้ำและได้อุปสมบท เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2488 ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ

มีพระครูบริหารบรมธาตุ (ป่วน เกสโร) วัดนางชี เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) วัดปากน้ำ เป็นพระกรรมวาจาจารย์

ด้วยความขยันและตั้งใจศึกษาเล่าเรียน ท่านจึงสอบได้มาโดยลำดับ เมื่อถึงปริยัติธรรมชั้นสูง หลวงพ่อสดจึงนำไปฝากกับสมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช (ปลด กิตติโสภโณ) เพื่อให้ศึกษาในสำนักเรียนวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

พ.ศ.2497 หลังสำเร็จการศึกษาชั้นเปรียญธรรม 9 ประโยค จึงไปรับตัวท่านกลับมาช่วยงานที่วัดปากน้ำ เพื่อสานต่องานและโครงการต่างๆ ริเริ่มไว้

หลังการมรณภาพของหลวงพ่อสด ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สืบต่อมาจนถึงกาลปัจจุบัน

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ สร้างผลงานอันทรงคุณูปการในหลากหลายด้าน อาทิ งานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ งานด้านการศึกษา งานเผยแผ่พระพุทธศาสนา เป็นต้น

ลำดับงานปกครองสงฆ์ พ.ศ.2500 เป็นพระอุปัชฌาย์ พ.ศ.2508 เป็นเจ้าคณะภาค 3 พ.ศ.2517 เป็นเจ้าคณะภาค 17 พ.ศ.2528 เป็นเจ้าคณะภาค 7 พ.ศ.2532 เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม จนถึงปัจจุบัน

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2499 เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่พระศรีวิสุทธิโมลี พ.ศ.2505 เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชเวที พ.ศ.2510 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพวรเวที พ.ศ.2516 เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่พระเทพวรเวที พ.ศ.2530 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะ เจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ ที่พระธรรมปัญญาบดี

พ.ศ.2539 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะชั้นสุพรรณบัฏ ที่สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์

สำหรับกำหนดการพิธีบำเพ็ญกุศลอายุวัฒนมงคล ครบ 92 ปี พรรษา 72 สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ) ระหว่างวันที่ 25-26 ส.ค.2560 มีดังนี้

วันศุกร์ที่ 25 ส.ค. เวลา 09.00 น. คณะสงฆ์หนเหนือ ประกอบพิธีสืบชะตาหลวง ตามประเพณีล้านนา ถวายที่บริเวณหน้าพระอุโบสถวัดปากน้ำ เวลา 11.00 น. ถวายภัตตาหารเพล บริเวณโดยรอบพระอุโบสถ วัดปากน้ำ เวลา 17.00 น. พระภิกษุ-สามเณรวัดปากน้ำ สวดพระพุทธมนต์ (ธรรมนิยาม) บนหอสังเวชนีย์มงคลเทพนิรมิต เวลา 19.00 น. พระสงฆ์ สามเณรชาวต่างประเทศ สวดมาติกา-บังสุกุล ที่ตึกวิเศษธรรมกาย ชั้น 3

วันเสาร์ที่ 26 ส.ค. เวลา 10.00 น. สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ มอบทุนการศึกษาแก่นักศึกษาวิทยาลัยตำรวจ ที่ศาลา สตมานุสรณ์ (ศาลาเรือนไทย) วัดปากน้ำ เวลา 17.00 น. ป็นประธานในพิธีเททองหล่อพระพุทธรูป ที่โรงหล่อสัตตบงกช (พุทธมณฑลสาย 4)

92 ปีของสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ จึงถือเป็นหลักไมล์สำคัญบนเส้นทางสายธรรมโดยแท้ เป็น 71 ปีแห่งความจงรักภักดีต่อพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ครูบาอาจารย์

ทั้งเป็นต้นแบบให้พระภิกษุ-สามเณรรุ่นหลัง ก้าวเดินเจริญตามรอยธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน