“พระครูประภัศร์ธรรมาภรณ์” หรือ “หลวงพ่อแต้ม ปุญญสุวัณโณ” วัดพระลอย ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พระเกจิอาจารย์ที่ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือ

เกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ย.2434 บ้านด้านทิศใต้ วัดพระลอย

เป็นคนร่างเล็ก ครอบครัวยากจน ไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสือ พอแตกหนุ่มเกิดคบเพื่อนอันธพาลนักเลงรุ่นเดียวกัน ชอบตีรันฟันแทง แม้จะมีร่างเล็ก แต่เล็กพริกขี้หนู ใจถึงน่าดูไม่กลัวใคร ท่านเป็นหัวหน้าขึ้นชื่อ คุมท้องถิ่นแถวบ้านวัดพระลอย และมีเพื่อน อีกคนหนึ่งที่รู้จักชอบพอกันดีเป็นหัวหน้านักเลงอยู่ที่ศรีประจันต์ ชื่อ ปุย (ภายหลังคือ หลวงพ่อปุย วัดเกาะ นั่นเอง) เป็นนักเลง คุมแถวลุ่มน้ำบ้านคอย

วันหนึ่งบิดามารดาเห็นว่าบุตรชายอายุครบบวช จึงอยากให้บวช ไปตามบุตรชาย ซึ่งตอนนั้นไปอยู่ที่อ่างทอง ตามตัวพบแล้วจึงพามาบวชที่วัดสำปะซิว โดยหลวงปู่โต๊ะ วัดลาดตาล ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าอาวาส อบรม บ่มนิสัยก่อนบวช

แรกเริ่มไม่รู้หนังสือแม้แต่ตัวเดียว แต่ก็สามารถท่องเจ็ดตำนานได้ภายใน 7 วัน หลวงปู่โต๊ะชอบใจมาก เพราะหัวไว

หลังจากนั้นจึงอุปสมบทให้ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.2455 ที่พัทธสีมาวัดสำปะซิว มีหลวงพ่อ ปลื้ม วัดพร้าว เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อปลื้ม (อีกรูปหนึ่ง) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงปู่โต๊ะ วัดสำปะซิว เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา “ปุญญสุวัณโณ”

หลังจากบวชแล้วเกิดจิตฟุ้งซ่าน หลวงปู่โต๊ะจึงพาไปเล่นกระดูกผีในป่าช้า และสอน กัมมัฏฐานให้ด้วย รวมทั้งสอนหนังสือทั้งไทย-ขอม จนอ่านออกเขียนได้

หลวงพ่อแต้มยังศึกษาวิชาแพทย์แผนโบราณกับช่างไม้-ช่างก่อสร้าง จากหลวงปู่โต๊ะอีกด้วย จนมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้

ต่อมาในปีพ.ศ.2463 ลาสิกขาออกมา สรุปแล้วท่านบวชครั้งแรกอยู่ 8 พรรษา ใช้ชีวิตทางโลกอยู่พักหนึ่ง เกิดเบื่อหน่ายทางโลกจึงอุปสมบทครั้งที่ 2 มีหลวงพ่อสอน วัดป่าเลไลยก์ เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงพ่อพร วัดป่าเลไลยก์ เป็นพระ กรรมวาจาจารย์, หลวงพ่อคำ วัดพระรูป เป็นพระอนุสาวนาจารย์

หลังจากอุปสมบทครั้งที่สองแล้วจำพรรษาอยู่วัดลาวทอง จวบจนปีพ.ศ.2466 จึงไปศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐานจากหลวงพ่อซัว วัดสาลี อ.บางปลาม้า จวบจนถึงปีพ.ศ.2468 และไปเรียนต่อจากหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จ.พระนครศรีอยุธยา สำเร็จวิชายันต์เกราะเพชร ท่านเคยได้เขียนยันต์เกราะเพชรให้เจ้าอาวาสวัดท่าทอง ขณะนี้ยังอยู่สวยงามมาก และวิชาหมอตาทิพย์ วิชาแพทย์แผนโบราณช่วยคน และกลับมาอยู่วัดลาวทองต่อ

เริ่มสร้างวัตถุมงคลรุ่นแรกตั้งแต่ปีพ.ศ.2495 เป็นพระเนื้อดินเผาสีดำ เป็นพระซุ้มกอ และพิมพ์นาคปรก หรือปางพญามหาชมพู และอีกหลายพิมพ์ เป็นเนื้อดิน เป็นต้น

เมื่อปีพ.ศ.2511 สร้างเหรียญรุ่นแรกเป็นเหรียญรูปอาร์ม เนื้อทองแดงรมดำ และเหรียญรุ่น 2 ปี 2512 รุ่น 3 ปี 2523 ช่วงเวลานั้นท่านสร้างพระกริ่ง เป็นกริ่งนาคปรก เนื้อโลหะผสม นับเป็นกริ่งรุ่นแรกรุ่นเดียวของหลวงพ่อแต้ม

ด้วยหลวงพ่อแต้มสำเร็จวิชายันต์เกราะเพชร หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค จึงได้สร้างเหรียญยันต์เกราะเพชรเหรียญแรกของแผ่นดิน ตั้งแต่ปี 2511 ฝากไว้เป็นสมบัติชั่วลูกชั่วหลาน

พ.ศ.2483 คณะสงฆ์แต่งตั้งให้หลวงพ่อแต้มดำรงตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดพระลอย ซึ่งใกล้จะร้างให้มีสภาพดีขึ้น ท่านพัฒนาวัด จนเจริญ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจขึ้นชื่ออีกแห่งของเมืองสุพรรณ

จวบจนปีพ.ศ.2514 หลวงพ่อแต้มมรณภาพอย่างสงบ สิริอายุ 80 ปี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน