หลวงพี่น้ำฝน อบรม ผู้สมัครบวช 145 คน เปิดใจ ผู้สมัครบวช ถวายพ่อหลวง รัชกาลที่ 9

พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ต.พระปฐมเจดีย์ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม เผยว่า เนื่องในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ วัดไผ่ล้อม ได้จัดให้มีพิธีอุปสมบทหมู่ เป็นเวลา 6 วัน ตั้งแต่วันที่ 22-27 ต.ค. 60 นี้ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช

อาตมาและศิษยานุศิษย์ ต่างมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่มีต่อปวงชนชาวไทย อาตมาจึงได้จัดให้มีพิธีอุปสมบทหมู่ ถวายเป็นพระราชกุศลขึ้น เพื่อให้พุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และมีโอกาสได้ร่วมกันบำเพ็ญบุญถวายพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน

อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้พุทธศาสนิกชน ได้มีโอกาสศึกษาอบรมตามหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนา และน้อมนำมาประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวันอย่างถ่องแท้

และเมื่อวันที่ 15 ต.ค.60 ที่ผ่านมา อาตมาได้อบรมผู้ที่สมัครอุปสมบท จำนวน 145 คน โดยเน้นให้รักและสามัคคี สร้างความพร้อมเพรียง ฝึกสวดมนต์ทำสมาธิ และให้ทุกคนตระหนักในความรักชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ที่สำคัญอาตมาทำโครงการนี้ ไม่ได้หวังผลสิ่งใดที่เกี่ยวกับประโยชน์ส่วนตน แต่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมกับครั้งหนึ่ง ที่เราจักได้มีโอกาสทดแทนบุญคุณ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อย่างที่พระมหากษัตริย์ของเรา รัชกาลที่ 9 ท่านได้สวรรคต เป็นเวลาครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ครบรอบ 1 ปีเต็ม

ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน อาตมาดูพระองค์ท่านเป็นแบบอย่างตอนพระองค์อุปสมบท ครั้งหนึ่งในชีวิตพระองค์ก็ต้องอุปสมบทเช่นกัน เพราะฉะนั้น คำว่า ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ต้องอยู่ร่วมกัน ถึงจะเป็นไตรรงค์ ก็คือประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนนี้ที่เราสูญเสียสิ่งที่รักและเคารพ ศรัทธาอย่างที่สุด นั่นก็คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 นั่นเอง ถึงได้จัดโครงการนี้และเห็นความสำคัญ

เราในฐานะอยู่ในคณะสงฆ์ คำว่าคณะสงฆ์จะทดแทนพระคุณท่านด้วยการจัดโครงการอุปสมบทเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เพราะฉะนั้น พวกท่านทั้งหลายมารวมกันในวันนี้ วัดไผ่ล้อมมิใช่ว่าจะจัดให้ท่านบวช แล้วรอไปร่วมพิธีอย่างเดียวนั้นไม่ใช่ ในระหว่างบวช บอกไว้ก่อน เราต้องปฏิบัติ บุญกุศลที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นจากที่พวกเราปฏิบัติ

เพราะฉะนั้น การบวชวัดไผ่ล้อมต้องอยู่ในกรอบ ระเบียบ วินัย บุญกุศลก็จะบังเกิดกับตัวท่านและผู้ที่ท่านอยากจะให้ได้รับผลบุญกุศลกับบุคคลนั้น เพราะฉะนั้นการบวชวัดไผ่ล้อม พระท่านจึงเรียกมาซ้อมเพราะอะไร มันเป็นความภาคภูมิใจ

ท่านสังเกตดูได้ ความภาคภูมิใจมันบังเกิด ว่าครั้งหนึ่งเคยไปบวชถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สอนลูกสอนหลาน ว่าการบวชเป็นพระเรื่องใหญ่ มันต้องมีการให้พระสวดญัตติแต่ละรอบ ๆ การบวชเป็นพระ แต่ละรูปไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ บุญกุศลมาบังเกิดมหาศาล และในระหว่างที่ท่านอุปสมบท บวชเป็นพระ 6 วันนี้ สิ่งที่ได้รับคือจิตที่ตั้งใจ และบุญกุศลก็ตกแก่ตนเอง และครอบครัว พ่อแม่ญาติพี่น้อง และโดยเฉพาะโครงการนี้บวชเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลอย่างแท้จริง

ด้านนาย จรรยา วงษ์เอกอินทร์ ผู้สมัครบวชในครั้งนี้ กล่าวว่า คิดอยู่ในใจตั้งนานแล้วครับ ตั้งแต่ในหลวงรัชกาลที่ 9ท่านประชวรใหม่ๆ ดูโทรทัศน์ รายการชุมทางดาวทอง เลยสนใจ ว่าจะโทรศัพท์มาถาม แต่เพื่อนบอกว่า ให้มาสมัครด้วยตนเองเลย

ผมอายุ 60 ปีกว่าแล้ว คุยกับคนรอบข้างจึงตัดสินใจว่า จะบวชครั้งนี้ให้พ่อและให้ตัวเอง จะได้รับบุญกุศลแล้วชีวิตจะดีขึ้น ผมคิดว่าอย่างนั้นนะครับ ที่ผ่านมาผมมีแรงบันดาลใจจากในหลวงรัชกาลที่ 9 มี การทรงงานของท่าน เพื่อประเทศไทยอย่างแท้จริง ดังคำกลอนนี้ พระคุณพ่อเลิศฟ้ามหาสมุทร พระคุณพ่อสูงสุดมหาศาล พระคุณพ่อเลิศฟ้าสุธาธาร ใครจะปานพ่อฉันนั้นไม่มี

นายเมืองแมน อุดม กล่าวว่า ผมเห็นข่าวจากทางเฟสบุ๊ค เพจของวัดครับ พอเห็นปั๊บ ผมก็ตัดสินใจทันที เพราะผมซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของท่าน ครั้งหนึ่ง ผมเคยติดคุกคดีขับรถประมาท ผมก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ได้ลดโทษ ออกก่อนกำหนด ติดอยู่ 7 เดือน 15 วัน จากการที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ผมได้เป็นผู้นำกล่าวเพลงสรรเสริญพระบารมี และผมก็ตั้งใจว่าผมออกมาจากคุกเมื่อไหร่ ผมจะบวชให้ท่าน

นายเตชวิชญ์ นราแก้ว (หมอปูน คลินิก TNC ฝังเข็ม) กล่าวว่า ผมดูจากเฟสบุ๊ค ผมต้องการทำดีให้พ่ออยู่แล้ว เพราะในหลวงทรงมีอุปการคุณแก่เราเยอะมาก เมื่อผมเกิดในรัชกาลที่ 9 ก็อยากจะทำอะไรเพื่อท่านบ้างครับ เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ในแผ่นดินรัชกาลที่ 9 ท่านทำเพื่อปวงชนชาวไทย ไม่เลือกว่าเป็นชาวเขาชาวดอย ทรงเสด็จไปในที่ทุรกันดาร

ซึ่งสมัยก่อน ประเทศไทยยังไม่เจริญ เดินทางไม่สะดวก ลำบาก คือไม่มีอะไรเลย ลำบากขนาดไหน ถ้าเทียบกับสิ่งที่เราทำให้ท่านยังน้อยกว่าเยอะ เพราะท่านใช้ความอุตสาหะไม่ได้เลือกปฏิบัติ อย่าง ชาวเขาชาวดอยก็ไปร่วมเคารพพระบรมศพกันเยอะมาก

ในหลวงทรงยิ่งใหญ่มหาศาลในใจคน ผมได้แรงบันดาลใจจากในหลวง ท่านทำให้เห็น เป็นตัวอย่างที่ดี ท่านเป็นพระเจ้าแผ่นดิน จะไม่ทำอะไรลำบากก็ได้ แต่ว่าท่านก็ทรงทำเพื่อปวงชนชาวไทย ท่านก็ทรงสละความสุขส่วนตัว เราจะไม่ค่อยเห็นในหลวงทรงทำงานทุกวัน

แม้วันที่ท่านทรงประชวรอยู่ในโรงพยาบาล ยังให้คนถวายฎีกาถวายรายงาน เรียกคนมาสอบถามความคืบหน้าโครงการต่างๆ อย่างโครงการพระราชดำริ ทั้งหมด 4,447 โครงการ ท่านก็ทำทุกอย่าง คิด วางแผน อย่างเช่นทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นพื้นที่ปลูกอะไรไม่ขึ้น ทำกินไม่ได้ ท่านก็ทำให้ประเทศอุดมสมบูรณ์ อยู่ดีขึ้น ท่านทรงพลิกฟื้น

หากได้ดูสารคดีชาวเขาติดฝิ่นทั้งหมู่บ้าน ท่านก็ตรัสว่า ถ้าจะเอามาขังคุก คนพวกนี้ก็คงไม่หมด ท่านก็พลิกให้คนเหล่านี้จากปลูกฝิ่นมาปลูกสตรอเบอรี่ได้ ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปจะทำได้ คือต้องพิสูจน์ให้เขาเห็นว่า มันดีกว่ายังไง เรียกว่า งานของท่านยิ่งใหญ่มากครับ

ผมอยากจะขอบคุณวัดไผ่ล้อมที่ได้เปิดโอกาสให้คนทั่วไปได้เข้าถึง วัดนี้เป็นวัดที่มีกิจกรรมสร้างสรรค์ตลอดเวลา มีโครงการดีๆเยอะมาก อย่าง โรงเรียนผู้สูงอายุฯ นะครับ ถ้าติดตามอยู่เรื่อยๆ ก็จะทราบดีครับ

นายกมลาสน์ ละไมกิจ เผยว่า ลูกสาวเห็นโพสต์ในเฟสบุ๊ค แล้วลูกสาวถามให้ เพราะตั้งแต่ในหลวงทรงประชวรอยุ่ในโรงพยาบาล ผมก็คิดว่าจะทำอะไรให้ท่านได้บ้าง คิดจะบวชมาหลายครั้ง แต่ความที่ผมติดภาระ ดูแลครอบครัว ดูแลลูก2 คนและแม่อีก 1 คน ก็เลยไม่มีเวลาประจวบเหมาะสักที ลูกสาวเลยบอกว่า มีที่วัดไผ่ล้อมไงพ่อ เป็นช่วงปิดเทอมพอดี ที่มีโอกาสได้ทำอะไรให้พระองค์ท่านสักครั้งในชีวิตที่ผมตั้งใจมาตลอด

ผมไม่ทราบว่าพระองค์ท่านเป็นแรงบันดาลให้ผมครั้งแรกเมื่อไหร่ รู้แต่ว่าเกิดมาก็เห็นรูปพระองค์ท่านที่ข้างฝาบ้าน ที่ปฏิทิน ผมได้รับรางวัลครั้งแรกในการเป็นนักเรียนคือประกวดคำขวัญวันพ่อ ครูภาษาไทยให้เขียน มีนักเรียน 3,000 กว่าคน ผมได้ที่หนึ่ง เป็นเรื่องที่ผมติดตรึงใจมาตลอดว่า วันพ่อทำให้ผมได้รางวัล ทำให้ผมคิดถึงพระองค์ท่าน ที่ผ่านมาทุกครั้ง ภาพของพระองค์ท่านที่มีพระเสโทหยาดหยดลงมาที่ปลายพระนาสิกของท่านเป็นภาพที่ทำให้ผมมีกำลังใจในการทำงาน ทุกครั้งที่ผมเหนื่อยยากและลำบากในการทำงาน ผมเห็นภาพพระองค์ท่านภาพนี้ทีไร ทำให้ผมฮึดสู้และฟันฝ่าอุปสรรคได้ทุกครั้งครับ

สำหรับวัดไผ่ล้อม ผมไม่ใช่คนในพื้นที่ แต่ผมสนใจและติดตามวัดไผ่ล้อมมา ในช่วงปลายที่หลวงพ่อพูลท่านใกล้มรณภาพ ช่วงนั้นผมยังอยู่บริษัทหนึ่ง ท่านได้ทำพระรุ่นสุดท้ายไว้ ผมได้เช่าบูชา ถือเป็นมงคลแก่ชีวิต ผมมองว่า เป็นเมตตามหามงคล ไม่ได้มองไปในทางอื่น รู้สึกศรัทธาและชื่นชม แต่ไม่เคยเข้ามาวัดไผ่ล้อมเลยสักครั้ง

จนได้มีโอกาสมาบวชที่นี่ ผมขับรถมาโดยที่ยังไม่รู้ทางเหมือนกันครับ ก็อาศัยถามมาตลอดจนมาถึงที่วัด และก็ไม่ผิดหวัง เพราะว่าวัดนี้ ให้โอกาสผม ผมเคยถามที่อื่นเรื่องบวช แต่ไม่ค่อยสะดวก ต้องขอบคุณทางวัด และท่านพระเลขาฯ ที่ผมโทรมาถามท่าน จนมาที่วัดได้รับการต้อนรับอย่างดี อยากให้มีกิจกรรมดีๆให้กับประชาชนโดยไม่มีการแบ่งแยกชนชั้นวรรณะต่อไปเรื่อยๆนะครับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน