คอลัมน์ มุมพระเก่า

ระหว่างที่ “หลวงพ่อดี สุวัณโณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดสุวรรณ ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม ได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้านนี้ ท่านก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้รวบรวมกำลังศรัทธาของสาธุชนทั้งหลาย สร้างสาธารณกุศลต่างๆ บูรณปฏิสังขรณ์พระอุโบสถซึ่งชำรุดทรุดโทรมจนมีความ สวยงาม เป็นที่เจริญตาเจริญใจแก่ผู้พบเห็น สร้างกุฏิสงฆ์ใหม่หลายหลัง สร้างศาลาการเปรียญให้กว้างขวาง เพียงพอแก่การใช้ทำพิธีกรรมทางศาสนา สนับสนุนการก่อสร้างโรงเรียนให้แก่กุลบุตร-กุลธิดาได้เข้าศึกษาหาความรู้

นอกจากนั้นยังสร้างถาวรวัตถุอีกมากมาย จนวัดสุวรรณกลายเป็นวัดที่งามสง่า เป็นที่น่าภาคภูมิใจของชาวบ้านย่านนั้นเป็นอย่างยิ่ง

ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อดีนั้นแปลกกว่าพระคณาจารย์อื่นๆ ความศักดิ์สิทธิ์ของท่านคือ “ความดี” ซึ่งชนะความชั่วทุกอย่างได้อย่างอัศจรรย์ ยากจะหาเถระใดปฏิบัติได้เช่นท่าน ท่านดีจริงๆ ดีจนไม่น่าเชื่อ แม้เด็กวัดจะเดินชนท่าน ท่านก็ยิ้มเฉย แผ่เมตตาให้ จนเป็นที่เกรงใจของเด็ก คือ ชนะความชั่วด้วยความดี พระลูกวัดชกต่อยกัน ท่านก็เรียกมาไต่ถามด้วยความเมตตา จนพระไม่กล้ากระทำความผิดอีกต่อไป ด้วยคุณธรรมความดีของท่านนี่เอง

เมื่อท่านสร้างมงคลวัตถุสิ่งใดออกมาแจกจ่าย จึงมีความศักดิ์สิทธิ์ยิ่งนัก

โดยเฉพาะ “ธงมหามงคล” ครั้งหนึ่ง ท่านปัดกวาดห้องพระภายในกุฏิเจ้าอาวาสเก่า ท่านได้พบธงลงยันต์ผืนหนึ่งมีความสวยงามมาก เป็นแบบฉบับที่ดี ที่ท่านพึงพอใจ (ภายหลังทราบว่าเป็นธงของหลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม) ท่านจึงนำมาศึกษาจนมีความเข้าใจเป็นอย่างดี แล้วทำแจกจ่ายแก่บรรดาศิษย์ให้ทดลองนำไปใช้ ปรากฏว่าได้ผลเป็นอย่างดีในทางมหาลาภ ร้านค้าใดมีธงของท่านปักไว้ ก็ทำมาค้าขายได้ดี เงินทองเข้าร้านร่ำรวยไปตามๆ กัน จนท่านลงไม่ทัน เพราะธงนั้นต้องลงอักขระด้วยมือ

บางรายนำไปใช้คุ้มครองบ้านเรือนก็ได้ผล ขโมยเข้าบ้านไม่ถูก เดินไปทางไหนเห็นกอไผ่บังหน้าเต็มไปหมด มีอยู่หลายรายนำไปใช้ป้องกันฝนตก ก็ได้ผล เพราะถึงฤดูก่อนเข้าพรรษา มีชาวบ้านต้องทำพิธีบวชลูกหลานกันมาก ตามบ้านนอกพื้นดินบริเวณบ้านเป็นลานดิน หากฝนตกลงมาการจัดงานก็ลำบาก จึงได้ใช้ธงหลวงพ่อดีเอาขึ้นปักไว้บนหลังคาบ้าน จุดธูปบอกกล่าว ปรากฏว่าฝนไม่ตกลงมาบริเวณงาน แต่รอบๆ ทั่วไปตกลงมาเป็นเทน้ำ เรื่องนี้ร่ำลือกันมาก

นอกจากธงมหามงคลแล้ว หลวงพ่อดีท่านยังสร้างเหรียญขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2506 รุ่นแรก ลักษณะแบบใบเสมา มีรูปท่านครึ่งองค์ เนื้อทองแดงรมดำ จำนวน 5,000 เหรียญ แจกจ่ายไปจนหมด ปรากฏว่าทางเมตตามหานิยมเป็นเอก ส่วนทางคงกระพันชาตรีก็แน่เหมือนกัน พวกชาวเรือหางยาวที่แล่นผ่านหน้าวัดท่านเอาไปใช้ เกิดมีเรื่องยิงกันบนเรือ ต่างคนต่างไม่เป็นไร เพราะต่างคนต่างมีเหรียญหลวงพ่อดี ทำไปทำมาเมื่อสอบถามกันได้ความ มีเหรียญเหมือนกันคือ เหรียญหลวงพ่อดี จึงเลิกวิวาทกัน หันมาดีกันสมชื่อของท่าน

จนกล่าวขวัญว่า “ใครมีเหรียญหลวงพ่อดี ต้องดีกันอยู่เสมอ”

ต่อมาเหรียญรุ่นหนึ่งหายาก ท่านจึงสร้าง รุ่น 2 เป็นชนิดกลม เนื้ออัลปาก้า ขึ้นมาอีก 3,000 เหรียญ ปรากฏว่าหมดในวันออกเหรียญรุ่น 2 นี้หายากอีก ท่านจึงสร้างรุ่น 3 เป็นแบบรูปไข่ เนื้อทองแดง ครั้งนี้ท่านเปลี่ยนเป็นสร้างรูปเต็มองค์ เพราะสร้างครึ่งองค์แล้วมีคนท้วงว่าขัดกับลักษณะของหลวงพ่อ ซึ่งเป็นพระใจดี แต่ให้รูปทั้งทีให้แค่ครึ่งเดียว ไหนๆ จะให้กันทั้งทีต้องให้ทั้งองค์

จนกระทั่งอายุได้ 89 ปี พรรษาที่ 68 จึงถึงแก่มรณภาพด้วยวัยชรา เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2536 ก่อนมรณภาพท่านสั่งให้เก็บสังขารท่านไว้ แต่เจ้าอาวาสรูปถัดมาจัดงานพระราชทานเพลิง เกิดปาฏิหาริย์ร่างท่านไม่ไหม้ไฟ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน