อริยะโลกที่6
เมืองนครปฐมเป็นถิ่นกำเนิดพระเกจิ อาจารย์ ซึ่งมีชื่อเสียงและประวัติเกียรติคุณเป็นจำนวนมาก สืบทอดกันอย่างไม่ขาดช่วง
ยุคต้น อาทิ หลวงพ่อทา วัดพะเนียงแตก, หลวงปู่นาค วัดห้วยจระเข้, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง, หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว, หลวงพ่อวงษ์ วัดทุ่งผักกูด ฯลฯ
ยุคถัดมา หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม, หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม, หลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว ฯลฯ
เมื่อสิ้นบุญเกจิอาวุโสรุ่นนั้น ถึงยุคสมัยหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม, หลวงปู่หลิว วัดไร่แตงทอง และ หลวงพ่อเต้า วัดเกาะวังไทร พระเกจิทั้งสามเป็นสหธรรมิกที่สนิทสนมเป็นพิเศษ ทั้งอายุพรรษาอยู่ในวัยไล่เลี่ยกัน
หลวงพ่อเต้า มรณภาพเป็นรูปแรก ตามมาด้วยหลวงพ่อแช่ม และหลวงปู่หลิวเป็นรูปสุดท้าย
วันที่ 21 พ.ค.2535 เป็นวันครบรอบวันคล้ายวันแห่งการมรณภาพ “หลวงพ่อเต้า เขมโก” อดีตเจ้าอาวาสวัดเกาะวังไทร ต.ถนนขาด อ.เมือง จ.นครปฐม
มรณภาพด้วยโรคชราที่ โรงพยาบาลศิริราช สิริอายุ 84 ปี พรรษา 62
หลวงพ่อเต้า เป็นทายาทของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง พระเกจิเรืองนามยุคสงครามอินโดจีน ในบรรดาศิษย์เอกทั้งหมดของหลวงพ่อแช่ม ท่านได้รับการถ่ายทอดทั้งธรรมะและวิทยาคมต่างๆ ไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุด
อีกทั้ง หลวงพ่อเต้า มีศักดิ์เป็นหลานแท้ๆ ของหลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง
นามเดิมว่า “เต้า ห้วยหงส์ทอง” เกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ย.2452 ที่บ้าน ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม
วันที่ 2 พ.ค.2472 เข้าพิธีอุปสมบทที่วัดตาก้อง พระครูอุตรการบดี (หลวงพ่อสุข ปทุมสุวณฺโณ) วัดห้วยจระเข้ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง และพระใบฎีกาล้ง วัดห้วยจระเข้ เป็นพระคู่สวด
อยู่ศึกษาพระธรรมวินัย ตลอดจนวิชาอื่นๆ และเจริญสมาธิวิปัสสนากัมมัฏฐานกับหลวงพ่อแช่ม ที่วัดตาก้องจนชำนาญ ศิษย์รุ่นพี่ที่เล่าเรียนด้วยกัน คือ หลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม จ.นครปฐม และหลวงพ่อแดง วัดเขาบันไดอิฐ จ.เพชรบุรี
บวช 5 พรรษา ออกธุดงค์ไปทางภาคเหนือ หลังกลับจากธุดงค์ได้ย้ายไปจำพรรษาตามวัดต่างๆ เพื่อศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม อาทิ วัดห้วยจระเข้ วัดนางสาว
สุดท้าย พ.ศ.2495 จึงถูกคณะสงฆ์ส่งไปรักษาการตำแหน่ง เจ้าอาวาสวัดเกาะวังไทร แทนพระใบฎีกาล้ง ที่ย้ายไปเป็นเจ้าอาวาสวัดห้วยจระเข้
ปี พ.ศ.2501 เป็นเจ้าอาวาสวัดเกาะวังไทร อย่างสมบูรณ์
วัดเกาะวังไทร เป็นวัดเก่าแก่แห่งหนึ่งของเมืองนครปฐม ได้หลวงพ่อเต้า บูรณะพัฒนาจนกลายเป็นอารามที่มีความเจริญทุกด้าน
เป็นผู้เสียสละประโยชน์สุขส่วนตัวอย่างแท้จริง โดยขายที่ดินมรดกนำเงินมาทุ่มให้กับการสร้างโบสถ์
ท่านคอยพร่ำสอนศิษย์เสมอว่า “ความสุขสบายของกายสังขารเป็นบ่อเกิดแห่งความทุกข์”
ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงระมัดระวังอย่างยิ่งในการควบคุมกาย วาจา ใจ ให้สงบระงับ จึงมักได้รับการนิมนต์ให้นั่งปรกปลุกเสกวัตถุมงคลอยู่เป็นประจำ
วัตถุมงคลที่ท่านสร้างจะปลุกเสกเดี่ยวด้วยตนเอง ยกเว้นรุ่นแรก ที่ขอเมตตาจากหลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม อธิษฐานจิตให้เป็นปฐมฤกษ์
มงคลวัตถุที่ท่านสร้างและปลุกเสกไว้ เช่น พระกริ่ง เหรียญรูปเหมือน รูปหล่อลอยองค์ พระเนื้อดินโป่งผสมผงพุทธคุณ พระปิดตา, พระกริ่ง, นางกวัก, ตะกรุด, ผ้ายันต์ ฯลฯ
โดยเฉพาะ “ผ้ายันต์ธงแดง” ขึ้นชื่อลือชามาก
ก่อนมรณภาพ หลวงพ่อเต้า ทิ้งคติธรรมไว้ว่า “เรามาแต่ตัว เมื่อตายไปอะไรก็ถือติดมือไปไม่ได้ มีแต่ความดีที่เคยทำไว้ พอจะให้คนเขานึกถึงได้บ้าง”
ในวาระสุดท้ายแห่งชีวิต ท่านไปตัวเปล่า เหลือคุณงามความดีจารึกไว้ให้คนจดจำ
