ราม วัชรประดิษฐ์

www.arjanram.com

หลวงปู่แสน ปสนฺโน วัดบ้านหนองจิก จ.ศรีสะเกษ พระเกจิชื่อดังแห่งภาคอีสานใต้ พระนักปฏิบัติ ผู้ถือสมถะ ชอบช่วยเหลือเกื้อกูลผู้คน บูรณะและพัฒนา เป็นที่เคารพศรัทธาของสาธุชนชาวอีสานและใกล้เคียง

ปัจจุบันอายุครบ 110 ปี นับเป็นหนึ่งในพระเกจิผู้มีอายุยืนยาวในยุคปัจจุบัน

เกิดในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 10 ปีวอก ตรงกับวันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2450 ที่บ้านโพง ต.ไพรบึง อ.ขุขันธ์ จ.ขุขันธ์

บรรพชาที่วัดบ้านโพง ศึกษากับหลวงพ่อมุม ที่วัดปราสาทเยอร์ใต้ จนจบชั้น ป.4 เมื่ออายุครบ 21 ปี อุปสมบทและศึกษาอาคมกับหลวงพ่อมุมอย่างต่อเนื่อง จนมีเหตุจำเป็นต้องลาสิกขาออกมาช่วยเหลือทางบ้านเมื่ออายุ 24 ปี

หลังจากสึก เป็น “หมอธรรม” ช่วยเหลือผู้คนในชุมชนจนเป็นที่เคารพนับถือ ยามเว้นว่างจากการทำเกษตรกรรม ก็ชักชวนเพื่อนหมอธรรมด้วยกันเดินทางไปเขมร เพื่อศึกษาวิทยาคมเพิ่มเติม ได้พบพระผู้ใหญ่และพระอาจารย์จากทางเขมรมากมาย โดยหลวงปู่จะเลือกเรียนเฉพาะวิชาที่เกี่ยวกับการช่วยเหลือและรักษาผู้คนเท่านั้น

เมื่อหมดภาระทางบ้าน จึงกลับเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง โดยไปจำพรรษาที่บ้านกุดเสล่า อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ แต่ยังคงรักการธุดงค์มักออกธุดงควัตรอยู่เป็นนิจ จนเมื่อหลวงตาวัน พระสหายรุ่นน้องได้ไปกราบนิมนต์ให้มาช่วยสร้างวัด ด้วยตัวท่านรักสมถะปีต่อมาจึงได้ย้ายมาจำพรรษาอยู่ที่สำนักสงฆ์โนนไทย

จนเมื่อได้เห็นสภาพ “วัดบ้านหนองจิก” ที่จะกลายเป็นวัดร้าง ท่านจึงได้ย้ายไปจำพรรษาและพัฒนาจนวัดรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ จำพรรษาอยู่ได้ 4 ปี โยมญาติจากวัดบ้านโพรงก็เดินทางมานิมนต์ท่านให้ไปช่วยพัฒนาวัด เพราะที่วัดไม่มีพระจำพรรษาเกรงว่าต่อไปจะแปรสภาพเป็นวัดร้าง หลวงปู่ก็เมตตาไปจำพรรษาทำนุบำรุงวัดจนเจริญขึ้น แม้อายุจะย่างเข้า 93 ปี

จนเมื่อหลวงปู่แสน อายุ 97 ปี ลูกหลานญาติโยมเป็นห่วงสุขภาพ จึงได้พากันไปนิมนต์กลับมาจำพรรษา ณ วัดหนองจิกจนถึงทุกวันนี้

เมื่อวันที่ 11 กันยายน พ.ศ.2560 เป็นวันคล้ายวันเกิด “หลวงปู่แสน” อายุครบ 110 ปี ย่างเข้าสู่ปีที่ 111 ศิษยานุศิษย์จึงได้จัดสร้างวัตถุมงคล เหรียญนาคคู่ “รุ่นฉลองหอระฆัง ๑๑๑ ปี ชาตกาล” เพื่อฉลองอายุและเพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาและเคารพนับถือหลวงปู่ได้ร่วมกุศล รายได้นำไปสมทบทุนสร้างหอระฆังที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ รวมทั้งสร้างศาลาที่ยังต้องใช้ปัจจัยอีกมาก

โดยได้รับมอบมวลสารศักดิ์สิทธิ์สำคัญจากวัดป่า นิโครธาราม อันได้แก่ ก้อนชนวนที่เหลือจากการหล่อพระประธาน อุปมาว่า “เหลือกิน เหลือใช้”, ฝาบาตรของหลวงปู่อ่อนที่เปิดรับอาหารจากญาติโยมผู้ศรัทธา อุปมาว่า “เปิดรับสิ่งมงคลโชคลาภ” และระฆังที่แขวนอยู่บนช่อฟ้าโบสถ์เก่าวัดป่านิโคร ธาราม

ซึ่งเป็นจุดสูงสุด อุปมาว่า “ชื่อเสียงโด่งดัง มีแต่ผู้คนรักใคร่” มวลสารสำคัญทั้ง 3 นี้ ได้ผ่านการสวดรับปาฏิโมกข์มาเป็นวาระแรกแล้ว ณ โบสถ์วัดป่านิโครธาราม เมื่อวันเพ็ญอาสาฬหบูชาที่ผ่านมา

โดย หลวงพ่ออวยพร วัดดอนยายหอม จ.นครปฐม ศิษย์เอก หลวงพ่อเงิน-หลวงพ่อแช่ม ได้ร่วมปลุกเสกด้วย จากนั้นจะได้นำมวลสารทั้งสามรวมทั้งตะกรุดโทนพอกผงศักดิ์สิทธิ์ ไปให้หลวงปู่แสนอธิษฐานจิตเดี่ยวอีกวาระ ก่อนนำมาบดย่อยหลอมรวมผสมลงไปในวัตถุมงคล พิธีพุทธาภิเษกเดี่ยวในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2560 ที่ผ่านมา ณ วัดบ้านหนองจิก

บัดนี้ เหรียญนาคคู่ รุ่น “ฉลองหอระฆัง ๑๑๑ ปี ชาตกาล” ได้ผ่านพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ครบถ้วนสมบูรณ์ มากด้วยความงดงามทางพุทธศิลป์ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร.09-2895-9824 หรือ Id line. Nakaraj999 ครับผม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน