คอลัมน์ มุมพระเก่า

พระเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองชัยนาทอันดับต้นๆ คงไม่มีองค์ใดโด่งดังสะท้านฟ้าเท่า “หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า” ยอดอริยสงฆ์ที่แก่กล้าวิชาอาคมและสร้างศิษย์เอกไว้มากมายหลายองค์ อย่างเช่น “หลวงพ่อโม ธัมมรักขิโต” อดีตเจ้าอาวาสวัดจันทนาราม ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี พระดี-เกจิดังที่มีตำนานความเข้มขลังไม่แพ้ผู้เป็นอาจารย์

“หลวงพ่อโม” อดีตเกจิเรืองนามองค์หนึ่งของเมืองชัยนาท เกิดเมื่อปีมะเมีย พ.ศ.2413 ณ บ้านบางยายอ้น ต.ห้วยกรด อ.สรรคบุรี มารดาชื่อนางฟัน คงเจริญ ส่วนบิดาไม่มีใครรู้ชื่อ ทราบแต่เพียงว่าถึงแก่กรรมในขณะที่ท่านอายุได้ 7 ขวบ

วัยเด็กได้อาศัยอยู่กับญาติๆ และมีจิตใจฝักใฝ่ในธรรม จึงบรรพชาเป็นสามเณรเมื่ออายุ 8 ขวบ กระทั่งอายุครบ 20 ปีจึงอุปสมบทที่วัดใหม่บำเพ็ญบุญ มี หลวงพ่อเถื่อน เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพระสมุห์คง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ หลวงพ่อโต วัดวิหารทอง เจ้าคณะแขวง อ.บ้านเชี่ยน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (บางท่านว่าพระอาจารย์นวม วัดกลาง เป็นพระอนุสาวนาจารย์) ได้ฉายาว่า “ธัมรักขิโต”

ได้ศึกษาเล่าเรียนทั้งวิชาภาษาไทย บาลี และพระธรรมวินัย รวมทั้งภาษาขอม เรียนกรรมฐานและวิชาอาคมจากหลวงพ่อเถื่อน หลวงพ่อคง และหลวงพ่อม่วง ซึ่งล้วนเป็นพระเกจิอาจารย์ที่ชาวบ้านห้วยกรดให้ความเคารพนับถืออย่างยิ่ง โดยอยู่จำพรรษาที่วัดใหม่บำเพ็ญบุญได้ประมาณ 10 พรรษา จึงไปศึกษาวิชาอาคมเพิ่มเติมจากหลวงพ่อโต วัดวิหารทอง

ต่อมาหลวงพ่อคงได้พาไปฝากเป็นศิษย์ พระครูวิมลคุณากร (หลวงปู่ศุข เกสโร) วัดปากคลองมะขามเฒ่า อ.วัดสิงห์ รับการถ่ายทอดสุดยอดวิชาอาคมแขนงต่างๆ ตำรายาสมุนไพรและแพทย์แผนโบราณอยู่นานถึง 5 ปี ระหว่างปีพ.ศ.2451-2456 ก่อนกลับมายังวัดใหม่ฯ และได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสสืบแทนหลวงพ่อคงที่มรณภาพ

ปีพ.ศ.2457 ญาติของท่านได้ซื้อที่ดินติดกับวัดร้างประมาณ 30 ไร่สร้างเป็นวัดขึ้นใหม่ ชื่อว่า “วัดจันทนาราม” แล้วอาราธนานิมนต์ท่านมาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก จากนั้นท่านได้ร่วมมือกับชาวบ้านพัฒนาวัดจนเจริญขึ้นโดยลำดับ

ด้วยเหตุที่บริเวณวัดส่วนหนึ่งมีเนินอิฐปรักหักพัง มีพระพุทธรูปหินชำรุดที่น่าสนใจอยู่องค์หนึ่ง ท่านจึงชักชวนชาวบ้านร่วมกันปฏิสังขรณ์ โดยนำเศียรพระพุทธรูป ศิลปะอู่ทอง หรืออยุธยายุคต้น ซึ่งมีขนาดใกล้เคียงกันนำมาต่อเข้ากับพระองค์ดังกล่าว และเรียกชื่อตามเนื้อวัตถุที่สร้างว่า “หลวงพ่อหิน” ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปคู่บารมีของหลวงพ่อโมที่มีความศักดิ์สิทธิ์และแสดงอภินิหารมากมาย ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ในวิหารคู่กับรูปหล่อหลวงพ่อโม

ยามว่างจากงานพัฒนาวัดท่านก็มักเดินทางไปแลกเปลี่ยนความรู้ด้านวิชาอาคมกับสหธรรมิกหลายๆ องค์ เช่น หลวงพ่อปลื้ม วัดสังฆาราม อ.สรรคบุรี หนึ่งในเกจิอาจารย์ดังแห่งเมืองสรรคบุรีที่วงการพระเครื่องรู้จักกันดี

ท่านได้เป็นพระอุปัชฌาย์บวชให้แก่ลูกหลานบ้านห้วยกรดเป็นเวลากว่า 20 ปี เป็นพระที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย สงบสำรวม ถ่อมตน ไม่อวดอ้างและพูดน้อย มีเมตตาธรรมเป็นที่ตั้ง ใครเดือดร้อนหรือมีปัญหาอะไรก็จะอนุเคราะห์ตามสมควรแก่เหตุ โดยไม่เลือกชั้นวรรณะ และได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นผู้มีวาจาสิทธิ์

จากการที่ท่านใส่ใจในการเจริญสมาธิภาวนาอยู่เป็นนิจ ทำให้มีสมาธิจิตกล้าแข็ง และมีอาคมเข้มขลัง เมื่อสร้างวัตถุมงคลออกมาจึงมีมหิทธานุภาพ ทั้งด้านเมตตา มหานิยม มหาอุด คงกระพันชาตรีและแคล้วคลาดเป็นเยี่ยม นักนิยมวัตถุมงคลและคนทั่วไปทั้งในท้องถิ่นและต่างจังหวัดต่างแสวงหามาบูชา เพราะมีประสบการณ์เล่าขานกันตลอดมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน