“พระราชอุทัยกวี” (ประชุม มาเรยโย) อดีตเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี และอดีตเจ้าอาวาสวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม (วัดทุ่งแก้ว) พระอารามหลวง ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี พระเถระชั้นผู้ใหญ่และพระสังฆาธิการที่มีศีลาจารวัตรและวัตรปฏิบัติอันงดงาม

มีนามเดิมว่า ประชุม เคยเหล่า เกิดเมื่อวันที่ 20 พ.ค. 2480 ที่บ้านเลขที่ 1 หมู่ที่ 3 ต.หนองไผ่แบน อ.เมือง จ.อุทัยธานี เป็นบุตรของนายชั้นและนางกำปั่น ครอบครัวประกอบอาชีพกสิกรรม

เรียนจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่โรงเรียนประชาบาลวัดหนองไผ่แบน พ.ศ.2492

พออายุครบ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2500 ที่พัทธสีมา วัดดอนขวาง ต.ดอนขวาง อ.เมือง จ.อุทัยธานี มีพระครูอุปกิตพิศาล เจ้าอาวาสวัดดอนขวาง เป็นพระอุปัช ฌาย์ พระสมุห์สวิง อหึสโก เป็นพระ กรรมวาจาจารย์ และพระใบฎีกาปลั่ง ถาวโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์

ได้รับฉายาว่า มาเรยโย แปลว่า ผู้มีมารยาทอันงดงาม

ตั้งมั่นเร่งศึกษานักธรรมและสอบได้ นักธรรมชั้นตรี วันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2501 ก่อนย้ายมาอยู่วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม พำนักที่กุฎี คณะจันทรภาคา (คณะจันทร์) ด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า แสวงหา ความรู้ ได้เข้าเรียนนักธรรมและบาลี

พ.ศ.2503 ย้ายไปอยู่วัดทรงธรรม ต.ทับคล้อ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร เพื่อเรียนบาลี ณ สำนักเรียนพระปริยัติธรรม วัดมงคลทับคล้อ ซึ่งมีชื่อลือเลื่องในการสอนดีมาก

พ.ศ.2506 สอบได้เปรียญธรรม 3 ประโยค ฤดูร้อนปีถัดมา ออกเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อแสวงหาสำนักเรียนบาลีต่อ และพำนักอยู่วัดดีดวด อ.บางกอกใหญ่ จ.ธนบุรี เข้าเรียนบาลี สำนักเรียนวัดนาคกลาง

พ.ศ.2510 สอบได้นักธรรมชั้นโท และพ.ศ.2511 สอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค

ผลงานด้านการปกครอง พระครู อุเทสธรรมนาท เจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี และเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนพระปริยัติธรรมวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม ได้ชักชวนให้ท่านมาช่วยสอนนักธรรมและบาลี จึงย้ายมาพำนัก ณ วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม

พ.ศ.2513 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม และเป็นเลขานุการ เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี พ.ศ.2516 เป็นรองเจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี พ.ศ.2532 เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองอุทัยธานี

พ.ศ.2532 เป็นเจ้าอาวาสวัดพิชัยปุรณาราม พ.ศ.2534 เป็นรองเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี พ.ศ.2539 รักษาการแทนเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี และเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม

พ.ศ.2539 ได้รับบัญชาแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี พ.ศ.2540 ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดมณีสถิตกปิฏฐาราม (พระอารามหลวง)

พ.ศ.2559 เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี

ลำดับงานด้านการศึกษา ซึ่งท่านปฏิบัติเต็มกำลังความสามารถ พ.ศ.2516 เป็นรองประธานกรรมการสอบธรรมสนามหลวง อ.เมืองอุทัยธานี พ.ศ.2530 เป็นพระปริยัตินิเทศก์จังหวัดอุทัยธานี พ.ศ.2531 เป็นประธานสอบธรรมสนามหลวง อ.เมืองอุทัยธานี

พ.ศ.2536 เป็นหัวหน้าหน่วยศูนย์สงเคราะห์พุทธมามกะผู้เยาว์ วัดพิชัยปุรณาราม พ.ศ.2539 เป็นเจ้าสำนักเรียนคณะจังหวัดอุทัยธานี พ.ศ.2540 เป็นเจ้าสำนักศาสนศึกษา วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม เป็น ผู้จัดการโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา วัดมณีสถิตกปิฏฐาราม เป็นต้น

ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2533 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะอำเภอชั้นเอก ในราชทินนามที่ “พระครูอุทัยคณาภิรักษ์” พ.ศ.2534 เป็นพระครูสัญญาบัตร รองเจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2539 เป็นพระครูสัญญาบัตร เจ้าคณะจังหวัดอุทัยธานี ในราชทินนามเดิม พ.ศ.2540 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระอุทัยธรรมคณี

พ.ศ.2545 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นราชที่ พระราชอุทัยกวี

กล่าวได้ว่า พระราชอุทัยกวีเป็น พระเถระที่ได้บำเพ็ญหิตานุหิตประโยชน์แก่ประเทศชาติและพระพุทธศาสนา เป็นอเนกประการ ควรแก่การยกย่องเกียรติคุณ

ด้วยความสมถะและมากด้วยเมตตาธรรม ลูกศิษย์ลูกหาจึงกระจายอยู่มากมายหลายจังหวัด

ล่วงเข้าปัจฉิมวัย ด้วยความไม่เที่ยงของสังขาร ท่านอาพาธบ่อยครั้ง สุดท้าย มรณภาพอย่างสงบ ที่กุฏิสุนทรประมุข เมื่อเวลา 03.09 น. วันที่ 11 ก.ค.2560 ด้วยโรคชราภาพ

สิริอายุ 80 ปี พรรษา 59

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน