กรมอนามัย ร่วม ฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของ มหาเถรสมาคม จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์ หลักสูตรพระคิลานุปัฏฐากพระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด – อสว. หวังพระสงฆ์สุขภาพดีสานต่อพระศาสนา

พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดยานนาวา และในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม เป็นประธานการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์หลักสูตรพระคิลานุปัฏฐากพระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด – อสว.หวังพระสงฆ์สุขภาพดีสานต่อพระศาสนา ระหว่างวันที่ 14 – 16 กุมภาพันธ์ 2561 ณ วัดยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพมหานคร

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์เพื่อส่งเสริมการดูแลสุขภาพ

พระพรหมวชิรญาณ กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์ ของมหาเถรสมาคม เปิดเผยว่า เรื่องสุขภาวะของพระสงฆ์ ถือเป็นโครงการที่ได้ร่วมกับภาครัฐจัดทำอย่างเป็นทางการครั้งแรก ร่วมปฏิบัติงานเชิงลึก เพื่อให้ความรู้ความเข้าใจต่อการดูแลสุขภาพพระสงฆ์ ในหลักสูตร พระคิลานุปัฏฐาก ซึ่งตามธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ นิยามศัพท์ว่า หมายถึง ผู้ปฏิบัติดูแลพระสงฆ์อาพาธ รวมทั้งการสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค การควบคุมโรค และการจัดการปัจจัยที่คุกคามสุขภาพของพระสงฆ์

และจากการประกาศใช้ธรรมนูญสุขภาพพระสงฆ์แห่งชาติ พุทธศักราช 2560 มีแนวคิดหลักในการส่งเสริมให้พระสงฆ์ดูแลสุขภาพตนเองตามหลักพระธรรมวินัย ให้ชุมชนและสังคมดูแลอุปัฏฐากพระสงฆ์ตามหลักพระธรรมวินัย และให้พระสงฆ์มีบทบาทในการเป็นผู้นำด้านสุขภาวะของชุมชนและสังคม การขับเคลื่อนสุขภาวะพระสงฆ์ทั่วประเทศ เป็นหน้าที่ร่วมกันของทุกภาคส่วนในสังคม

นายแพทย์อรรถพล แก้วสัมฤทธิ์ รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวถึงการประชุมว่า การจัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์ หลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด – อสว.)ในครั้งนี้ มีกิจกรรมสำคัญประกอบด้วยการบรรยาย อภิปรายให้ความรู้ การทดสอบสมรรถภาพทางกายโดยเครื่องวิเคราะห์องค์ประกอบมวลสารในร่างกาย

โดยเครื่อง Inbody การฝึกปฏิบัติช่วยฟื้นคืนชีพขั้นพื้นฐาน (CPR) การฝึกปฏิบัติโดยผ่านฐานการเรียนรู้ การส่งเสริมสุขภาพ พระสงฆ์สุขภาพแข็งแรง วัดมั่นคง ชุมชนเป็นสุขจำนวน 5 ฐาน ได้แก่ การออกกำลังกาย, การถวายภัตตาหารอย่างไรให้ได้บุญ พระสงฆ์ฉันได้สุขภาพ, ธรรมชาติบำบัดตามหลักพระธรรมวินัย,สุขภาพช่องปาก, และ การส่งเสริมสุขภาพจิตโดยการประเมินความเครียด

ด้านนายแพทย์กิตติ ลาภสมบัติศิริ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยผู้สูงอายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า พระสงฆ์ไทยมีปัญหาทางสุขภาพ โดยเฉพาะป่วยเป็นโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจขาดเลือดและภาวะไขมันในเลือดสูง ซึ่งสาเหตุสำคัญส่วนหนึ่งมาจากอาหารที่ใส่บาตรทำบุญของประชาชน ที่ยังขาดความรู้ความเข้าใจ และตระหนักถึงผลเสียต่อการเจ็บป่วยของพระสงฆ์

จึงจัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์ หลักสูตรพระคิลานุปัฏฐาก (พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด – อสว.)เพื่อให้พระอาสาสมัครส่งเสริมสุขภาพประจำวัด มีความรู้ ความเข้าใจในการดูแลสุขภาพอนามัยของตนเอง และให้คำแนะนำ ดูแลพระสงฆ์ภายในวัด และชุมชนได้

รวมถึงเพื่อเตรียมการรองรับระบบการดูแลพระสงฆ์และการดูแลผู้สูงอายุระยะยาว และเพื่อพัฒนาศักยภาพพระสงฆ์แกนนำ เพื่อเป็นผู้นำทางจิตวิญญาณ และการพัฒนาสุขภาวะชุมชน โดยมี พระคิลานุปัฏฐากร่วมโครงการนี้ จังหวัดละ1 รูป ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง และภาคีเครือข่าย รวมทั้งสิ้นจำนวน ๒๐๐ รูป/คน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน