“เชิด ขันตี ณ พล”

“หลวงปู่จันทร์ เขมจาโร” หรือ “พระครูเกษมประชาทร” อดีตเจ้าอาวาสวัดประชาสามัคคี บ้านบะฮี-กกเค็ง ต.เบิด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ เป็นอดีตพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติดี มีชื่อเสียง

เกิดในตระกูล หอมหวน เดิมชื่อ แก่นจันทร์ เกิดเมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2475 ที่บ้านหนองขอน ต.เบิด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์

เข้าพิธีอุปสมบท ในปี พ.ศ.2495 ที่อุโบสถวัดศรีนาราม บ้านม่วงหมาก ต.ธาตุ อ.รัตนบุรี มีพระครูรัตนพุทธิคุณ หรือ หลวงปู่เขียว เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีธาตุ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา เขมจาโร

หลังจากเข้าสู่ร่มเงาผ้ากาสาวพัสตร์ จำพรรษาปฏิบัติธรรมอยู่ที่วัดอีสาน บ้านหมกเต่า ต.เบิด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์

ขณะจำพรรษาอยู่วัดอีสาน หลวงปู่สี ฉันทสิริ พระเกจิอาจารย์ชื่อดังจาก จ.หนองบัวลำภู เดินทางมาที่วัดอีสาน หลวงปู่จันทร์ขอฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาวิทยาคมกับท่าน ซึ่งหลวงปูสี เมตตาถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น

จากนั้น หลวงปู่จันทร์ ออกเดินธุดงค์ติดตามหลวงปู่สี ผู้เป็นพระอาจารย์ไปตามป่าเขาทั่วประเทศ บางครั้งเคยข้ามไปยังฝั่ง สปป.ลาว ผ่านไปประเทศเมียนมา ทะลุถึงประเทศอินเดีย เพื่อไปนมัสการสังเวชนียสถาน ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญทางพุทธศาสนา ช่วงนั้นการปฏิบัติเป็นไปอย่างจริงจัง

ภายหลังจากที่หลวงปู่จันทร์ออกเดินธุดงควัตรติดตามหลวงปู่สี นานหลายสิบปี หลวงปู่สี ย่างเข้าสู่ปัจฉิมวัย จึงหยุดการธุดงค์และมาจำพรรษาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ ประมาณปี 2510 กระทั่งหลวงปู่สี มรณภาพในปี พ.ศ.2520 หลวงปู่จันทร์ จึงเดินทางกลับบ้านเกิด มาจำพรรษาอยู่ที่วัดอีสาน บ้านหมกเต่า ต.เบิด อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ อยู่นานหลายปี

ในปีพ.ศ.2536 หลวงปู่จันทร์ เห็นว่าที่ดินบริเวณที่ตั้งวัดประชาสามัคคีในปัจจุบัน มีความสงบเงียบร่มรื่นเหมาะกับการปฏิบัติธรรม จึงร่วมกับญาติโยมสร้างวัดขึ้นใหม่ จนแล้วเสร็จ ได้รับวิสุงคามสีมาเป็นวัดที่ถูกต้อง ในปี 2543

ด้วยวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจึงมีพุทธ ศาสนิกชนให้ความเลื่อมใสศรัทธา

พ.ศ.2556 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ในราชทินนามที่“พระครูเกษมประชาทร” และเป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะตำบลเบิด

ทุ่มเทกำลังกายพัฒนาวัดประชาสามัคคีแห่งนี้อย่างเต็มที่ ถาวรวัตถุที่ท่านต้องการสร้างไว้ เพื่อใช้ปฏิบัติศาสนกิจ คือ ศาลาปฏิบัติธรรม แต่ยังขาดปัจจัยอยู่จำนวนมาก ประกอบกับในปี 2560 เป็นปีที่หลวงปู่จันทร์ อายุวัฒนมงคลครบ 85 ปี

บรรดาคณะศิษยานุศิษย์ ขออนุญาต จัดสร้างเหรียญรูปเหมือน “รุ่นอายุยืน” เพื่อหารายได้สมทบทุนสร้างศาลาปฏิบัติธรรมให้แล้วเสร็จตามวัตถุประสงค์

แต่ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคลรุ่นดังกล่าวได้ไม่กี่วัน หลวงปู่จันทร์ เกิดอาพาธเข้ารักษาตัวที่ โรงพยาบาลประจำจังหวัด สุดท้ายมรณภาพ อย่างสงบ เมื่อวันที่ 16 ม.ค.2561 สิริอายุ 85 ปี พรรษา 66

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน