“พระสุวรรณสุมงคล” หรือ “หลวงพ่อท้วม เขมจาโร” เจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณ ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี พระเกจิอาจารย์ชื่อดังสุราษฎร์ธานี เชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ
ตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่ายปฏิปทางดงาม เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น เป็นร่มโพธิ์ ทองของศิษยานุศิษย์
มีนามเดิมว่า เขียม อักษรสม เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ธ.ค.2465 ที่บ้านสมอทอง หมู่ 2 ต.สมอทอง อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ ธานี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาทั้งหมด 7 คน
จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในปี พ.ศ.2479 เมื่ออายุครบเกณฑ์ทหาร สมัครใจเป็นทหารเพื่อรับใช้ชาติอยู่ 2 ปี หลังจากปลดประจำการ เป็นครูสอนหนังสือที่โรงเรียนประชาบาล อยู่ระยะหนึ่ง
หลังจากนั้น เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2492 ณ วัดศรีสุวรรณ มีพระครูประสงค์สารการ (หลวงพ่อเทศน์) วัดวิชิตดิตถาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูฮอด หิรัญโญ อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระวีรญาณมุนี วัดศรีบุญเรือง จ.เลย เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ได้รับฉายาว่า เขมจาโร อันหมายถึง ผู้มีความประพฤติเรียบร้อยดีงาม
หลังอุปสมบท เดินทางไปปฏิบัติธรรมและศึกษา พระธรรมวินัยในหลายจังหวัดทางภาคอีสาน แล้วกลับมาจำพรรษาที่วัดศรีสุวรรณ พ.ศ.2499 ได้ศึกษาพระธรรมวินัยจนจบชั้นนักธรรมเอก และดำรงตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีสุวรรณ
พ.ศ.2504 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นโท ในราชทินนามที่ พระครูพิเศษเขมาจาร
พ.ศ.2519 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นพิเศษ ในราชทินนามเดิม
วันที่ 16 ก.พ.2524 เป็นพระอุปัชฌาย์
พ.ศ.2557 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ในราชทินนามที่ พระสุวรรณสุมงคล
เป็นพระเกจิอาจารย์ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา เมื่อรับกิจนิมนต์แล้วท่านจะต้องเดินทางไปถึงสถานที่งานก่อนเป็นประจำ มีหลายครั้งที่ต้องไปรอเจ้าภาพของงานเสียด้วย
นอกจากนี้ ในฐานะท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ ไม่ขาดตกบกพร่อง ท่านรับหน้าที่ในการบรรพชาอุปสมบทให้กุลบุตรผู้มีความพร้อม เข้าสู่ร่มเงาผ้ากาสาว พัสตร์ อีกทั้งบวชชีพราหมณ์ เพื่อสืบทอดและบำรุงพระพุทธศาสนา
ด้านการศึกษา ท่านก็ให้ความสำคัญและเอาใจใส่เป็นพิเศษ ด้วยท่านมีความผูกพันกับการเรียนการสอนมาตั้งแต่ก่อนจะอุปสมบท ปัจจุบันท่านยังเป็นกรรมการสถานศึกษาถึงสองแห่ง คือ โรงเรียนวัดศรีสุวรรณและโรงเรียนบ้านคลองสงค์ โดยให้การอุปถัมภ์นักเรียนด้วยการมอบทุนการศึกษาแก่เด็กที่เรียนดี แต่ขาดแคลนทุนทรัพย์เสมอมา
ส่วนงานกิจนิมนต์ในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลตามวัดต่างๆ ท่านต้องเดินทางเข้าร่วมพิธีเสมอ แม้นจะไกลหรือจะเหน็ดเหนื่อยเพียงใด ท่านก็มีความสุขที่ได้ปฏิบัติเช่นนั้น ศิษย์ผู้คอยดูแลปรนนิบัติก็ไม่สามารถทัดทานได้
หลวงพ่อท้วม เคยกล่าวว่า “เมื่อเขาพร้อมเราก็พร้อม ฤกษ์ดีอยู่ที่ สะดวก ในเมื่อเขาตั้งใจมาหาเพื่อให้เราช่วยแล้วเราก็ต้องทำให้ทันทีด้วยความเต็มใจ”
ส่วนวัตถุมงคลรุ่นต่างๆ ที่ท่านได้สร้างและอธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์ ด้วยพลังแห่งพุทธคุณที่ปรากฏครบถ้วน ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคล ต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครอง
เช้ามืดวันเสาร์ที่ 31 มี.ค. หลวงพ่อท้วม ละสังขารลงอย่างสงบ ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี สิริอายุรวม 95 ปี พรรษา 69
ท่ามกลางความอาลัยของบรรดาคณะศิษยานุศิษย์เป็นอย่างยิ่ง
ทั้งนี้ มีกำหนดการสวดอภิธรรม 10 วัน เพื่อบำเพ็ญกุศล และปิดหีบเก็บสรีรสังขารในวันที่ 12 เม.ย.2561
