“เชิด ขันตี ณ พล”
“พระครูสิริสารโกวิท” หรือ “หลวงพ่อสัม ฐานุตโม” เป็นพระภิกษุอีกรูปหนึ่งที่มีวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีเมตตาธรรมสูง เป็นที่นับถือศรัทธาของชาวมหาสารคาม
ปัจจุบัน สิริอายุ 66 ปี พรรษา 46 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอุทัยทิศ ต.ตลาด อ.เมือง จ.มหาสารคาม และเจ้าคณะตำบลตลาด เขต 1
เกิดในสกุล ป้องขวาเลา เมื่อปี พ.ศ.2495 ที่บ้านขาม ป้อม อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม ครอบครัวประกอบอาชีพทำไร่ทำนา
หลังจบการศึกษาชั้นประถมปีที่ 4 ออกมาช่วยงานครอบครัวทำงานหาเลี้ยงชีพด้วยความขยันขันแข็ง
จนอายุครบ 20 ปี บริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทที่พัทธสีมาวัดโนนทอง จ.มหาสารคาม มีพระครูวิจักษ์โคจรคุณ วัดโนนทอง เป็นพระอุปัชฌาย์, พระมหาชัยรัตน์ ญาณวัฑฒโน วัดหนองแวง เป็นพระกรรม วาจาจารย์ และพระอาจารย์บุญทัน จิตตทันโต วัดบ้านโนนทอง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ จำพรรษาอยู่ที่วัดขามป้อม และได้เดินทางเข้าไปศึกษาพระธรรมวินัยที่สำนักเรียนวัดโสมนัสประดิษฐ์ อ.วาปีปทุม จ.มหาสารคาม จนสอบได้นักธรรมชั้นเอก ช่วงเดียวกันยังเรียนแผนกสามัญจบการศึกษาผู้ใหญ่ระดับ 4 จากนั้นไปสอบได้วิชาครูพิเศษการศึกษา (พ.กศ.) และสอบได้วิชาครูพิเศษมัธยม (พ.ม.)
แต่ด้วยความมุ่งมั่นศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี จึงได้เดินทางเข้าไปยังกรุงเทพฯ จำพรรษาที่วัดสะพาน มุมานะศึกษาเล่าเรียน สามารถสอบได้เปรียญธรรม 5 ประโยค และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นครูสอนปริยัติธรรมประจำสำนักเรียนวัดสะพาน
จากนั้นเดินทางกลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดขามป้อม ได้รับการแต่งตั้งเป็นครูสอนปริยัติธรรม และได้รับความไว้วางใจจากคณะสงฆ์อำเภอเมือง ให้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดอุทัยทิศ
นอกจากนี้ ยังเป็นพระนักพัฒนา ทุ่มเทแรงกายแรงใจพัฒนาวัดอุทัยทิศแห่งนี้ จนเจริญรุ่งเรืองทั้งถาวรวัตถุและสาธารณูปโภค
ปรับปรุงสภาพแวดล้อมภายในวัด โดยร่วมกับญาติโยมปลูกไม้ยืนต้นในวันสำคัญตลอดปี ทำให้วัดแห่งนี้มีแต่ความสงบร่มรื่นเหมาะกับการปฏิบัติธรรม
ด้านการศึกษา ท่านให้การสนับสนุนพระภิกษุ-สามเณร ที่ตั้งใจเรียนและเรียนดี โดยจัดหาทุนมอบให้ทุกปี โดยท่านดำรงตำแหน่งเป็นผู้จัดการโรงเรียนอุทัยทิศวิทยา เปิดสอนทั้งแผนกธรรม และแผนกบาลี หลวงพ่อ รับหน้าที่เป็นครูสอนด้วย
ลำดับสมณศักดิ์ พ.ศ.2551 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูสิริสารโกวิท ลำดับงานด้านปกครอง พ.ศ.2545 ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดอุทัยทิศ
ต่อมาได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าคณะตำบลตลาด เขต 1 จนถึงปัจจุบัน
ด้วยวัตรปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเสมอต้นเสมอปลาย ทำให้หลวงพ่อสัม มีชื่อเสียงอยู่ในศรัทธาของญาติโยมชาวมหาสารคาม อย่างรวดเร็วในวันธรรมดาและวันสำคัญทางศาสนาจะมีญาติ โยมเดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรมจากท่านที่วัดอย่างล้นหลาม
บ้างก็มาขอให้ท่านช่วยตรวจดวงชะตาให้ ซึ่งท่านก็ไม่ขัดข้องเพราะท่านทราบว่าญาติโยมที่มาหาล้วนมีทุกข์ ท่านจึงต้องช่วยปัดเป่าทุกข์ให้ ถึงแม้บางครั้งท่านจะเหน็ดเหนื่อยจากการต้อนรับญาติโยม แต่ด้วยจิตใจที่กล้าแกร่ง ท่านจึงไม่เคยท้อ
ส่วนหลักธรรมคำสอนที่พร่ำสอนญาติโยมมาโดยตลอด เพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินชีวิต คือ ให้ยึดศีล 5 ไว้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต และอย่าดำรงชีวิตอยู่ด้วยความประมาท เป็นผู้มีความกตัญญูกตเวทิตาต่อผู้บุพการีและผู้มีพระคุณ ไม่เบียดเบียนสรรพสัตว์ร่วมโลก เพียงเท่านี้จะทำให้ชีวิตพานพบแต่ความสุขความเจริญ
ถือเป็นเพชรเม็ดงามของชาวเมืองตักศิลาอย่างแท้จริง