มาตรการ ยุบ ไทยรักไทย เพื่อไทย ยุบได้ ก็ตั้งได้

ไม่ว่าจะเป็นคำขู่จาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไม่ว่าจะเป็นการขานรับจาก พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต.ในเรื่องการยุบพรรคเพื่อไทย

พรรคเพื่อไทยเผชิญประสบอย่างเยือกเย็น

ไม่ว่าจะมาจาก พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ รักษาการหัวหน้าพรรค ไม่ว่าจะมาจาก นายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ ประธานพรรคเพื่อไทย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ยิ่งจากรักษาการรองโฆษก นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด

ยังเสนอข้อเปรียบเทียบอย่างคมคายว่าบทบาทของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กับการขานรับของ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา จะเป็นรูปธรรมของการยอมรับการครอบงำหรือไม่

ทำไมพรรคเพื่อไทยจึงดูเหมือนว่าจะไม่ตื่นเต้น

ความไม่ตื่นเต้นของพรรคเพื่อไทยอาจเป็นเพราะ 1 เห็นว่าการคาดทำนายว่าพรรคเพื่อไทยจะชนะการเลือกตั้งเป็นการแสดงความเห็นอย่างปกติธรรมดา

มิได้มีอะไรที่ถือได้ว่า “ครอบงำ”

เพราะว่าการแสดงความเห็นเช่นนี้มิได้กระทำแต่ต่อพรรคเพื่อไทยเท่านั้น หากแต่ยังเลเพลาดพาดไปยังพรรคการเมืองอื่นด้วย

เช่นเดียวกับ 1 การเดินทางไปยังฮ่องกงของอดีตส.ส.

ไม่ว่าคนที่เดินทางไป ไม่ว่าคนที่เดินทางมาและเป็น เป้าหมายในการพบก็เป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละปัจเจกบุคคล มิได้เป็นไปตามมติพรรค และแทบไม่มีกรรมการบริหารพรรคเลย

ยิ่งกว่านั้น 1 ที่สำคัญคือคำขู่เช่นนี้มิได้เป็นเรื่องใหม่

ต้องยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยเกิดขึ้นภายหลังคำสั่งยุบพรรคพลังประชาชนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2551 และก็ดำรงอยู่บนสภาพการถูกเฝ้ามอง

ถูกเฝ้ามองเหมือนพรรคพลังประชาชนก่อนหน้านี้

ขณะเดียวกัน ก็ต้องยอมรับด้วยว่าพรรคพลังประชาชน เกิดขึ้นภายหลังคำสั่งยุบพรรคไทยรักไทยเมื่อเดือนธันวาคม 2550

ผลของการยุบพรรคในแต่ละครั้งเป็นอย่างไร

เมื่อยุบพรรคไทยรักไทยเกิดพรรคพลังประชาชนขึ้น ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนธันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชนก็ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมาเป็นที่ 1

เช่นเดียวกับพรรคเพื่อไทยได้ชัยชนะในเดือนกรกฎาคม 2554

จากนี้จึงเห็นได้อย่างเด่นชัดว่า การยุบพรรคไทยรักไทย การยุบพรรคพลังประชาชน เป็นบทลงโทษที่ไม่ส่งผลสะเทือนในทางการเมือง

ความหมายก็คือ ประชาชนก็ยังไว้วางใจเหมือนเดิม

ต้องยอมรับว่า การตระเตรียมพรรคเพื่อธรรม การตระเตรียมพรรคเพื่อชาติ หรือแม้กระทั่งพรรคไทยรักษาชาติ ก็เพื่อความรอบคอบ รัดกุม

เพราะว่าเมื่อยุบได้ก็สามารถตั้งหรือย้ายไปพรรคใหม่ได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน