บดขยี้ การเมือง ไทยรักไทย ถึง เพื่อไทย กับ อนาคตใหม่

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

บดขยี้ การเมือง ไทยรักไทย ถึง เพื่อไทย กับ อนาคตใหม่ – ปรากฏการณ์ที่ไม่ควรมองข้ามอย่างสำคัญอันเนื่องแต่กรณีของพรรคอนาคตใหม่ กรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ คือ ความแม่นยำอย่างยิ่งยวดของ “ข่าวลือ”

ถือได้ว่า “ข่าวลือ” ได้กำหนด “ทิศทาง” มาอย่างต่อเนื่อง

อย่างเช่นในกรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ข่าวลือดุเดือดรุนแรงถึงระดับที่ว่า “จะไม่ยอมให้ได้

เหยียบเข้าสภา” อย่างเด็ดขาด

ผลก็คือได้เข้าไป แต่ก็ต้องออกมา

เมื่อมาถึงกรณีเงินกู้กว่า 191 ล้านบาท ข่าวลือก็ทยอยออกมาอย่างเป็นระบบ ทั้งยังเป็นการลือไปจนถึงปลายทางเสร็จสรรพ นั่นก็คือ ยุบแน่

หากเปรียบเทียบกับกรณีของพรรคไทยรักไทย หากเปรียบเทียบกับกรณีของ นายทักษิณ ชินวัตร บทสรุป อาจคล้ายๆ กัน แต่รายละเอียดสลับซับซ้อนมากกว่า

นั่นก็คือ ก้ำกึ่งระหว่างแน่ๆ กับไม่แน่

ตรงกันข้าม พอมาถึงกรณีของพรรคอนาคตใหม่ กรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กระบวนการการลือ กระบวนการปล่อยข่าวกลับพุ่งเข้าเป้า ไม่อ้อมค้อม

บรรดาคนหน้าเดิมออกมาแสดงบทบาทเต็มที่

และตลอดสองราย ไม่ว่าจะเป็นที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือแม้กระทั่งศาลรัฐธรรมนูญ ก็เป็นไปในรอยเดียวกันกับที่ลือ และที่ปล่อยออกมา ครบถ้วน

การกำจัดพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน การกำจัด นายทักษิณ ชินวัตร ตลอดจน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อาจต้องใช้เวลาเป็นอย่างสูง

เนื่องจากความสลับซับซ้อนของ “ยุทธวิธี”

นั่นก็คือเริ่มจากปี 2548 กระทั่งรัฐประหาร 2549 และก็ย้อนมาอีกหนในปี 2550 กระทั่งยุบพรรคพลังประชาชนในปี 2551

แม้กระทั่งรัฐประหารปี 2557 ก็อยู่ในพิมพ์เขียวเดียวกัน

นั่นเท่ากับใช้เวลาจากปี 2548 มายังรัฐประหารเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นเวลาเกือบ 1 ทศวรรษ ขณะที่กรณีพรรคอนาคตใหม่ใช้เวลาอันสั้นหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562

คําถามก็คือ ปฏิบัติการต่อพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน ต่อ นายทักษิณ ชินวัตร ต่อ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำชัยอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดหรือไม่

เหมือนกับจะชนะ แต่ก็ไม่เด็ดขาด

อย่างน้อยจากยุคพรรคไทยรักไทย ก็ตามมาด้วยยุคพรรคพลังประชาชน จะยุคพรรคพลังประชาชนก็ตามมาด้วยพรรคเพื่อไทย

คำถามก็คือแล้วการจัดการกับพรรคอนาคตใหม่จะยืดเยื้อหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน