บทบาท ออนไลน์
กรณี เสียบบัตร แทนกัน
ชัดเจน แจ่มแจ้ง
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
บทบาท ออนไลน์ กรณี เสียบบัตร แทนกัน – กรณีเสียบบัตรแทนกันจะกลายเป็น “รอยแผล” ติดอยู่กับรัฐบาล ติดอยู่กับพรรคพลังประชารัฐติดอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ไปตลอดกาล
หากพรรคพลังประชารัฐยังมีชีวิต หากพรรคภูมิใจไทยยังมีชีวิต
ไม่ว่ากรณีของ 2 ส.ส.พรรคภูมิใจไทยมีความเด่นชัด ไม่ว่ากรณีของ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ มีความเด่นชัด
ต่อหน้าประชาชนเป็นล้าน
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นถึงความก้าวหน้าเป็นอย่างสูงในการตรวจสอบ สะท้อนให้เห็นความสามารถอันเป็นผลมาจากความก้าวหน้าของเทคโนโลยี
ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สามารถแกะรอย นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ และ นางนาที รัชกิจประการ แห่งพรรคภูมิใจไทยได้เด่นชัดเพียงนี้
คำตอบ 1 คือ ความจัดเจนในระบบรัฐสภา
ขณะเดียวกัน คำตอบ 1 คือ การรู้จักใช้หลักฐานอันปรากฏผ่านโซเชี่ยล มีเดีย ผ่านเทคโนโลยีอันเป็น ความก้าวหน้าแห่งยุคสมัย
เพราะทุกอย่างล้วนประทับไว้ใน “ออนไลน์”
เมื่อนำเอาความจริงจากที่ประชุมสภา ประสานเข้ากับความจริงอันปรากฏผ่านสื่อออนไลน์ รูปธรรมอันแอบทำซ่อนเร้นก็แจ้งจางปาง ณ เบื้องหน้าสังคม
จากกรณีของ นายฉลอง เทอดวีระพงษ์ นางนาที รัชกิจประการ ส่งผลสะเทือนอย่างลึกซึ้งไปยังสภาพที่เกิดขึ้นในที่ประชุมสภาจริงๆ
ปรากฏให้เห็นผ่านคลิปของช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
นั่นก็คือ ปฏิบัติการเสียบบัตรแทนกันมิได้มีจากกลุ่ม ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเท่านั้น หากแต่ยังมีให้เห็นจะจะ จาก ส.ส.พรรคภูมิใจไทย
เห็นชื่อ เห็นการเคลื่อนไหวครบถ้วน
ผลก็คือ ภาพของช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณเมื่อนำไปสู่ที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ และ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ออกมาแถลงยอมรับก็เท่ากับเป็น “คำสารภาพ”
จากกรณี 2 ส.ส.พรรคภูมิใจไทยอัน นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ออกมาเปิด จากกรณี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐที่ช่อง 7 สีนำคลิปออกมาเผยแพร่
ตามมาด้วยคำแถลงจากพรรคพลังประชารัฐ
สถานการณ์เสียบบัตรแทนกันจึงครบถ้วนทั้ง “ใบเสร็จ” ทั้งคำ “สารภาพ” กลายเป็นพยานหลักฐานอยู่เบื้องหน้าของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
โดยมีคำวินิจฉัยที่ 3-4/2557 มาเป็นพื้นฐาน