สัญญาณ การเมือง

เตือน การยุบ “อนาคตใหม่”

อ่อนไหว การเมือง

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

สัญญาณ การเมืองเตือน การยุบ “อนาคตใหม่”อ่อนไหว การเมือง : ปรากฏการณ์รณรงค์เพื่อคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่ที่กำลังเดินหน้าด้วยความคึกคักขณะนี้ก็อีหรอบเดียวกับปรากฏการณ์หนุน นายทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2544

เพียงแต่ครั้งนั้นเป็นคดีซุกหุ้นจากคำวินิจฉัยของป.ป.ช.

เป็นคดีตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งเมื่อเดือนมกราคม 2544 เป็นแผนพิฆาต นายทักษิณ ชินวัตร เป็นแผนดับอนาคตของพรรคไทยรักไทย

แต่ในขั้นการเลือกตั้งพรรคไทยรักไทยกลับได้รับเลือกมาถล่มทลาย

ปรากฏการณ์อันเป็นผลสะท้อนจากการตัดสินใจ “เลือก” ของประชาชนเช่นนี้เองทำให้รู้สึกว่ากระบวนการบดขยี้ทำลาย นายทักษิณ ชินวัตร ไม่เป็นธรรมในทางการเมือง

หากคนที่เดินนำหน้าในการรณรงค์คัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่เป็น นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ การรณรงค์เพื่อปกป้อง นายทักษิณ ชินวัตร ก็มาจาก นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว

และคนที่ยืนอยู่ข้างหลังอีกคน คือ นพ.ประเวศ วะสี

เพราะทั้ง นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว และ นพ.ประเวศ วะสี ตระหนักว่าบทบาทของ นายทักษิณ ชินวัตร และบทบาทของพรรคไทยรักไทยจะเป็นประโยชน์ต่อสังคม

ไม่ว่านโยบาย 30 บาท ไม่ว่านโยบายกองทุนหมู่บ้าน

บทสรุปของ นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว และ นพ.ประเวศ วะสี ต่อพรรคไทยรักไทย ต่อ นายทักษิณ ชินวัตร ก็เช่นเดียวกับบทสรุปของ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ ต่อพรรคอนาคตใหม่ ต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ

อย่าได้แปลกใจหากเมื่อเข้าไปดูในรายละเอียดการรณรงค์ของ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ จะประจักษ์ว่า นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ ไม่ได้มาคนเดียว

หากแต่อบอุ่นทั้งคนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่

สังคมสัมผัสได้ในการเห็นด้วยของ นายนิธิ เอียวศรีวงศ์ ในการเห็นด้วยของ นายโคทม อารียา ในการเห็นด้วยของคนรุ่นใหม่อย่าง นายยุทธเลิศ สิปปภาค

รวมถึง นายบรรยง พงษ์พานิช รวมถึง นายดวงฤทธิ์ บุนนาค

ยิ่งกว่านั้น แม้กระทั่ง นายเสกสรรค์ ประเสริฐกุล ซึ่งเก็บตัวเงียบ “ปลีกวิเวก” ทางการเมืองก็ร่วมลงชื่อคัดค้านการยุบพรรคอนาคตใหม่

ไม่ว่าในที่สุดแล้วการรณรงค์ของ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ จะประสบผลอย่างไร เหมือนกับการประสบผลของ นพ.เสม พริ้งพวงแก้ว เมื่อปี 2544 หรือไม่

แต่นี่คือ การส่ง “สัญญาณ” ทางการเมือง

สะท้อนให้เห็นว่าสังคมเริ่มไม่เห็นด้วยกับการทำลายทางการเมืองผ่านกระบวนการยุบพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อพรรคอนาคตใหม่ที่ทะยานขึ้นมาในฐานะอันเป็นนวัตกรรมทางการเมือง

นี่คือบำเหน็จอันพรรคอนาคตใหม่กำลังได้รับ