วิถีแห่งข่าวสาร อนาคตของ อนาคตใหม่ ในทางการเมือง
คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง
วิถีแห่งข่าวสารอนาคตของอนาคตใหม่ในทางการเมือง : บทบาทของพรรคอนาคตใหม่ในการเข้าสู่แนวรบการอ่านคำวินิจฉัยคดีเงินกู้จำนวน 191 ล้านบาทจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ น่าศึกษา
ไม่เพียงแต่ในแง่ “กฎหมาย” หากแต่ในแง่ “การเมือง”
ในแง่ของกฎหมายสังคมอาจมองว่าเป็นเรื่องสลับ ซับซ้อน แต่เมื่อพรรคอนาคตใหม่นำออกมาวางอยู่ ณ เบื้องหน้าก็เริ่มคลี่คลายมองเห็นได้เป็นเปลาะเป็นปล้อง
โดยเฉพาะจากคำอธิบายของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล
จุดเด่นเป็นอย่างมากของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล คือ ความรอบรู้ในข้อกฎหมาย เมื่อประสานเข้ากับที่เคยเป็นครูมาก่อนยิ่งทำให้กระบวนการเป็นกันเองมากขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นการแถลงปิดคดีในคดี “อิลลูมินาติ” ไม่ว่าจะเป็นการแถลงปิดคดีในคดี “เงินกู้ 191 ล้านบาท” ต้องยอมรับว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล ทำได้อย่างดี
ประกอบกับพรรคอนาคตใหม่กำลังอยู่ในความสนใจ
เพราะว่ามิได้มีแต่บุคลากรจากพรรคอนาคตใหม่อย่าง นายปิยบุตร แสงกนกกุล ได้ออกมาอธิบายและแก้ต่างให้กับพฤติการณ์ของพรรค
หากสังคมยังเข้าไปมีส่วนร่วมในการปกป้อง อธิบาย
เห็นได้จากบทบาทของ นายชาญวิทย์ เกษตรศิริ เห็นได้จากบทบาทของ นายโคทม อารียา เห็นได้จากบทบาทของ นายบรรยง พงษ์พานิช ในการปกป้องและ ไม่ต้องการให้มีการยุบพรรคอนาคตใหม่
การออกโรงของบรรดา “คนดัง” ในทางวิชาการ ในทางธุรกิจ ในทางสังคมและรวมถึงบุคคลในแวดวงธุรกิจบันเทิงแสดงการคัดค้านและต่อต้านการยุบพรรคอนาคตใหม่
ทำให้เกิดการแปรเปลี่ยนในทางความคิดเป็นอย่างมาก
ฝ่ายที่เคยคิดว่าตัวเองอยู่ในฐานะ “โจทก์” เป็นผู้กล่าวหา กลับกลายเป็นถูกมองจากสังคมในวงกว้างและเห็นเป็นเสมือนกับ “จำเลย”
จึงเรียกร้องต้องการคำอธิบายอย่างพิสดารตามมา
สังคมอยากรู้ว่าเหตุผลอะไรที่คณะกรรมการการเลือกตั้งอยากให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ สังคมอยากรู้ว่าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญจะเห็นคล้อยตามคำเรียกร้องของคณะกรรมการการเลือกตั้งหรือไม่
อาจกล่าวได้ว่า พรรคอนาคตใหม่ได้ยึดครองพื้นที่ข่าว นั่นก็หมายรวมไปถึงตัวของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ตัวของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล ด้วย
นี่เป็นธรรมดาในวงจรแห่งการข่าว
กระนั้น เป้าหมายอย่างแท้จริงของการเคลื่อนไหวทั้งหมดรวมศูนย์ไปที่คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่าจะดำเนินไปในทิศทางใด
เป็นคุณหรือเป็นโทษต่อพรรคอนาคตใหม่
