ทำเนียบ เชื่องช้า

“กทม.” จึงละล้า ละลัง

ก้าวตาม บุรีรัมย์

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง

ทำเนียบ เชื่องช้า “กทม.” จึงละล้า ละลังมาตรการเข้ม ปิดเมืองกำลังกลายเป็นทิศทางของประเทศ

ในที่สุด กรุงเทพมหานครในยุคของ พล.ต.อ. อัศวิน ขวัญเมือง ก็เดินตามแนวทางของจังหวัดบุรีรัมย์ อันริเริ่มมาจาก นายเนวิน ชิดชอบ

ใครไม่ทำ GU ทำ

แรกที่ นายเนวิน ชิดชอบ โพสต์ข้อความดุดันนี้ผ่านเพจ “ลุงเนวิน” ว่าน่าจะต้องมีการใช้มาตรการเข้มในการสกัดโรคโควิด-19 ที่บุรีรัมย์

หลายคนหัวร่อ จะเป็นไปได้อย่างไร

ความเป็นจริงกำลังพิสูจน์อย่างเป็นรูปธรรมในสัจจะแห่ง “ปิดเมือง”

ความจริง รูปแบบนี้คณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแห่งกระทรวงสาธารณสุขเคยเสนอผ่าน นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

แต่ไม่มีใครเห็นชอบด้วย

อาจเป็นไปได้ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล จะปรารภแนวคิด “ปิดเมือง” ลักษณะนี้ภายในพรรคภูมิใจไทย และ นายเนวิน ชิดชอบ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ มองเห็นและเข้าใจ

จึงนำร่องที่บุรีรัมย์ จึงนำร่องที่อุทัยธานี

คําประกาศจากกรุงเทพมหานครจึงมีความสำคัญเป็นอย่างสูง

เนื่องจากกรุงเทพมหานครเป็นเมืองหลวง เป็นศูนย์กลางแห่งระบบบริหารราชการแผ่นดิน การตัดสินใจของกรุงเทพมหานครจึงมีความหมาย

ส่งผลสะเทือนให้จังหวัดบริวารโดยรอบ

จากนั้นแต่ละจังหวัดจึงเริ่มนำพิมพ์เขียวของกรุงเทพมหานครไปประสานกับพิมพ์เขียวของบุรีรัมย์และพิมพ์เขียวของอุทัยธานี

กลายเป็นเทรนด์ “ปิดเมือง” โดยอัตโนมัติ

บทเรียนจากกรุงเทพมหานครมีความสำคัญ มีความหมายและมีบทบาท

สะท้อนให้เห็นความเชื่องช้าในการตัดสินใจ และความเชื่องช้านี้มีจุดเริ่มมาจากทำเนียบรัฐบาล อย่างน้อยก็ช้ากว่าบุรีรัมย์ ช้ากว่าอุทัยธานี

ขณะเดียวกัน ก็แทบไม่มีหลักประกันว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน