คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง : อาการ ติดกึก ของ พลังประชารัฐ เกม การเมือง

คอลัมน์ วิเคราะห์การเมือง : อาการ ติดกึก ของ พลังประชารัฐ เกม การเมือง

อาการ ติดกึก ของ พลังประชารัฐ เกม การเมือง – ทั้งๆที่เพิ่งได้ชัยชนะ แต่พรรคพลังประชารัฐก็เริ่มประสบกับ “อุปสรรค”

ชัยชนะที่ว่า คือ ชัยชนะที่สามารถเปลี่ยน หัวหน้าพรรคจาก นายอุตตม สาวนายน มาเป็น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ชัยชนะที่ นายอนุชา นาคาศัย ได้เป็นเลขาธิการพรรค

ความหมายของชัยชนะหมายความว่าสามารถรุกและจัดการ“ล้างบาง” เครือข่ายของ “กลุ่ม 4 คน” ให้พ้นไปจากพรรคพลังประชารัฐแทบจะเหี้ยนเตียน

แม้กระทั่ง นายชวน ชูจันทร์ ก็ไม่เว้น

แล้วอย่างไรที่เรียกว่าเป็น “อุปสรรค” ใหม่สำหรับพรรคพลังประชารัฐ

ขอให้ดูกรณีการเปิดตัว นางนฤมล ภิญโญ สินวัฒน์ ให้ทะยานไปอยู่ในฐานะหัวแถวของทีมเศรษฐกิจใหม่ของพรรคพลังประชารัฐเป็นตัวอย่างเถิด

ถามว่าราบรื่น สดสวยกาววาวหรือไม่

ถามว่าสามารถนำเอาชื่อ นางนฤมล ภิญโญ สินวัฒน์ ไปวางเรียงอยู่เคียงข้างกับ นายอุตตม สาวนายน ได้อย่างชนิดเหนือกว่าหรือไม่

แม้แต่ นายอนุชา นาคาศัย ก็ต้องเหน็ดเหนื่อย

กระแส “ต้าน” ต่อ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นั้นหนักหนาสาหัสอย่างยิ่ง

เสียงยี้ที่ดังจากสื่ออาวุโสอย่าง นายสุทธิชัย หยุ่น อาจเข้าใจได้ในความเป็นกลางอย่างเสมอต้น เสมอปลาย แต่ที่มาจากกองเชียร์รัฐบาลอย่าง นางฟองสนาน จามรจันทร์

จำเป็นที่พรรคพลังประชารัฐต้องล้างหูน้อมรับฟัง

เช่นนี้เองความคิดที่จะดันถึงขั้นเป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล จึงลดระดับลงมาถึงขนาดเป็นเพียงคนหนึ่งในทีมเศรษฐกิจของพรรคพลังประชารัฐ

มิใช่หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคแต่อย่างใด

กรณีของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ กำลังจะเป็น “บทเรียน” อันสำคัญ

ไม่เพียงทำให้การรุกของพรรคพลังประชารัฐจำเป็นต้องหลุดกึก หากแต่ยังทำให้เห็นว่าการเบียดแทรกเข้าไปชี้ทิศทางในการปรับครม.มิได้เป็นเรื่องง่าย

แค่ตีฝ่าบารมีของ “กลุ่ม 4 กุมาร” ก็ต้องเหน็ดเหนื่อยอย่างยิ่ง