ปัญหารัฐบาล – ปฏิกิริยาจาก “ภายใน” พรรคพลังประชารัฐ ต่อ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ น่าศึกษา

คล้ายกับเป็น “ปฏิกิริยา” ต่อการที่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ออกโรงมาเสนอให้ “ยุบสภา” เหมือนกับเป็นการเอาแบบมาจาก “สิงคโปร์ โมเดล”

เหมือนกับ “ภายใน” พรรคพลังประชารัฐจะไม่เห็นด้วย

จึงไม่เพียงแต่ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ จากสิงห์บุรีจะออกโรงโต้ หากแม้กระทั่ง นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ จากฉะเชิงเทรา ก็ไม่อยู่นิ่งเฉย

เชื่อว่าจะต้องมี “เสียง” อีกหลายเสียงตามมา

พรรคพลังประชารัฐบริหารจัดการต่อ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ อย่างไร

คล้อยหลังการออกโรงของ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ ปรากฏเสียงเตือนจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นิ่มๆว่า ต้องคำนึงถึงความปรองดอง สมานฉันท์

น่าสนใจก็ตรงที่ยังมีเสียงจาก นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ ตามมา

น่าสนใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ปฏิกิริยาซึ่งดังจาก นายชัยวัฒน์ เป้าเปี่ยมทรัพย์ เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่มีเสียง ปรามจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ผ่านที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค

แสดงว่า “ภายใน” พรรคพลังประชารัฐยังไม่ยอมหยุด

แท้จริงแล้ว “ปฏิกิริยา” อันเหมือนโดมิโนจากพรรคพลังประชารัฐเกิดขึ้นจากจุดใด

คงจำกันได้ว่า ในบรรยากาศแห่งการเคลื่อนไหวปลด นายอุตตม สาวนายน จากหัวหน้าพรรค ปลด นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ จากเลขาธิการพรรค

มีเสียงจาก นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คมคายยิ่ง

คมคายด้วยคำถามผ่านนักข่าวว่า “เบื่อมั้ย” คมคายด้วยคำถามผ่านสังคมว่า “ทำไมคนดีจึงอยู่ไม่ได้” ต่อสภาพการเคลื่อนไหวรุกไล่ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

เรื่องเหล่านี้ “ภายใน” พรรคพลังประชารัฐย่อมรับรู้อย่างต่อเนื่อง

เสียงปรามจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ก่อผล อย่างไรในทางการเมือง

ทุกอย่างก็เหมือนกับข่าวและการเคลื่อนไหวเพื่อรุกไล่ นายอุตตม สาวนายน รุกไล่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นั่นแหละ คือ มีเสียงปราม มีเสียงเตือน

แต่ผลก็เห็นกันในวันที่ 27 มิถุนายนว่าเป็นอย่างไร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน