เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2561 นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น เปิดเผยว่า ในเรื่องการบริหารจัดการขยะ สิ่งที่สำคัญก็คือ การบริหารจัดการขยะตั้งแต่ต้นทาง นั่นคือ ครัวเรือน โดยการคัดแยกขยะอินทรีย์หรือขยะเปียกออกจากขยะทั่วไป

โดยผู้ที่ช่วยขับเคลื่อนเรื่องนี้ให้เกิดเป็นรูปธรรม ก็คือท่าน ดร.ปฤถา พรหมเลิศ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ที่เชิญชวนให้กรรมการแม่บ้านมหาดไทย 17 จังหวัดภาคเหนือ ช่วยจัดทำ “ถังขยะอินทรีย์หรือขยะเปียกครัวเรือน” เพื่อหมักเป็นปุ๋ยภายในบริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัด เมื่อครั้งที่ลงพื้นที่ศึกษาดูงานด้านการบริหารจัดการขยะชุมชนบ้านป่าบุก เทศบาลบาลตำบลแม่แรง อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูนในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทางกรมฯ เห็นว่าแนวทางดังกล่าว เป็นประโยชน์และเป็นวิธีการที่ถูกต้องในการแก้ไขปัญหาขยะ จึงได้ขอความกรุณาผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาดำเนินการขอความร่วมมือข้าราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน รวมทั้งผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และสมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ทุกแห่ง ช่วยจัดทำ ถังขยะอินทรีย์หรือขยะเปียกครัวเรือนในครัวเรือนของตนด้วย

พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์เชิญชวนให้พี่น้องประชาชนทุกครัวเรือน ร่วมมือกันจัดทำถังขยะอินทรีย์หรือขยะเปียกครัวเรือน โดยใช้จุดพื้นที่ที่ทางกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือผู้นำชุมชนได้จัดทำไว้ นำไปเป็นศูนย์เรียนรู้การจัดการขยะอินทรีย์และขยะเปียก โดยใช้หลักการ 3Rs หรือ 3ช : Reduce (ใช้น้อย) Reuse (ใช้ซ้ำ) และ Recycle (นำกลับมาใช้ใหม่) ไปใช้เป็นแนวทางในการจัดการขยะต้นทาง

อธิบดีกล่าวต่อว่า ในปัจจุบันท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้ให้ความร่วมมือในการจัดทำ “ถังขยะอินทรีย์หรือขยะเปียกครัวเรือน” ในบริเวณจวนผู้ว่าราชการจังหวัดครบทุกจังหวัดแล้ว รวมทั้งพี่น้องประชาชนก็ได้ร่วมจัดทำถังขยะเปียกครัวเรือนด้วยแล้วอีกกว่าสองแสนครัวเรือน

จึงทำให้มั่นใจว่า จากการนำของท่าน ดร.ปฤถา พรหมเลิศ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ท่านผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จะสามารถเชิญชวนให้ประชาชนได้ร่วมกันทำถังขยะเปียกได้มากกว่า 5 ล้านครัวเรือนภายในปี 2561 หรือคิดเป็นร้อยละ 30 ของครัวเรือนทั้งประเทศ อันจะส่งผลให้ปริมาณขยะเปียกที่เน่าเหม็นได้ลดลงมากกว่า 30 ล้านตันต่อวัน หรือ กว่า 10,000 ล้านตันต่อปีนั่นเอง

และต่อไป กรมฯ จะดำเนินโครงการประกวด การคัดแยกขยะเปียกระดับครัวเรือน ระดับหมู่บ้าน และระดับเต็มพื้นที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อเป็นการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจในการสร้างผลงานดีๆให้แก่คนในชุมชน ก็ขอฝากให้ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ช่วยกันขับเคลื่อนวาระสำคัญของชาติในเรื่องการบริหารจัดการมูลฝอยที่เป็นภารกิจหลักของพวกเราให้เกิดผลเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น

เน้นย้ำในเรื่องการสร้างจิตสำนึก ให้สังคมตระหนักรู้ถึงการบริการจัดขยะที่ดี ช่วยกันคัดแยกขยะตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งพี่น้องประชาชนคือกำลังสำคัญ โดยให้ผู้บริหารท้องถิ่นและท้องที่ จะต้องเป็นแกนนำหลักในการสร้างจิตสำนึก และสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชน เพราะหากทุกคนช่วยกันพัฒนาและต่อยอดให้ดียิ่งขึ้น ก็จะเป็นต้นแบบให้แก่ชุมชนอื่นๆต่อไปได้อีกด้วย อธิบดีกล่าวในตอนท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน