เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ร.ต.ท.หญิง ปวีณา ชุมฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งมีคนเกี่ยวหญ้าแล้วเสียชีวิต อยู่ในซอยรจนา บ้านเลื่อม ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงรุดตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.อ.บรรภต ภูริศรี รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี แพทย์เวร ร.พ.ศูนย์อุดรธานี และมูลนิธิอุดรส่งเสริมธรรมที่เกิดเหตุพบศพนายสง่า ฟ้าฤาคำ อายุ 67 ปี อยู่บ้านเลขที่ 99/2 หมู่ 3 ต.บ้านเลื่อม สวมเสื้อลายสก็อต สีน้ำตาลขาว แขนยาว เสื้อข้างในยืดสีน้ำเงิน นุ่งกางเกง ขายาว สีน้ำเงินเข้ม สวมรองเท้าบูทสีเขียว นอนหงายใต้ต้นไม้จามจุรี ใกล้กันประมาณ 10 เมตร พบรถสามล้อเครื่องของผู้ตาย จอดอยู่ริมถนนในซอย ท้ายกระบะมีหญ้าอยู่เต็มรถ ต่อมานางเดช ฟ้าฤาคำ อายุ 65 ปี ภรรยาที่ทราบข่าว รีบรุดมากอดศพสามีร่ำไห้

จากการสอบสวน น.ส.บรรจง ทาสีดำ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139 หมู่ 9 ต.บ้านเลื่อม หลานของผู้ตาย ให้การว่า ตนออกไปซื้อของที่ห้างสรรพสินค้าในตัวเมืองอุดรธานี และกำลังขับรถจะกลับบ้านพัก โดยผ่านมาบริเวณที่ปู่เกี่ยวหญ้า เนื่องจากลูกสาวบอกว่าเห็นปู่นอนอยู่ใต้ต้นไม้ไม่ขยับตัว จึงขี่รถออกมาดู แต่ปรากฏว่าปู่ไม่หายใจและตัวแข็งไปแล้ว จึงร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน ก่อนแจ้งตำรวจมาทำการตรวจสอบ เมื่อก่อนผู้ตายจะเลี้ยงหมูและเป็ด แต่มาระยะหลังลูกชายซื้อวัวมาให้ 4 ตัว จึงออกมาเกี่ยวหญ้าบริเวณแถวนี้ประจำ เพื่อจะนำหญ้าไปให้วัวกินด้านนางเดช กล่าวว่า ตนกับสามี อยู่กินด้วยกันมา 50 ปี มีลูกด้วยกัน3 คน เมื่อเช้าสามีเอาวัวไปผูกเลี้ยงไว้ แล้วกลับมากินข้าวที่บ้านด้วยกัน ก่อนที่สามีจะออกไปเกี่ยวหญ้า ตนได้ทักท้วงว่ามีแดด และอากาศร้อนด้วย แต่สามีก็ไม่ฟัง จึงขับรถสามล้อเครื่องออกจากบ้านไป กระทั่งหลานโทรมาบอกว่า สามีเสียชีวิตแล้ว

จากนั้นแพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพตามร่างกายไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้าย เสียชีวิตมาประมาณ 7 ชั่วโมง คาดว่าเกิดจากการเกี่ยวหญ้าเหนื่อย แล้วเกิดอาการวูบขึ้นมาจนหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ซึ่งไม่มีใครเห็นและช่วยไว้ได้ทัน โดยญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต เจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ จึงนำศพผู้เสียชีวิตไปที่ ร.พ.ศูนย์อุดรธานี เพื่อให้ญาติไปติดต่อนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน