วันที่ 12 พ.ค. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ตำรวจท่องเที่ยว พร้อม พ.ต.อ.ศราวุธ ตันกุล ผกก.2 บก.ทท.1 พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ เอนสาร สว.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 (พัทยา) และตำรวจ สภ.เมืองพัทยา นำโดย พ.ต.อ.อภิชัย กรอบเพชร ผกก. สภ.เมืองพัทยา นำตัวนาย ลี่ ไห (LI HAI) อายุ 21 ปี สัญชาติจีน ผู้ต้องหาในคดีประกอบอาชีพมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาต (ไกด์เถื่อน) มาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ภายหลังจากข่มขู่นักท่องเที่ยวชาวจีนให้ได้รับความกลัว จนมีคนถ่ายคลิปวีดีโอและนำไปเผยแพร่ประจานในโลกโซเชียลเน็ตเวิร์คยังประเทศจีน

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้มีคลิปวิดีโอปรากฏในสื่อสังคมออนไลน์ ภายในประเทศจีน ซึ่งมียอดชมสูงถึง 3 ล้านวิว โดยคลิปดังกล่าวบันทึกการสนทนาระหว่างกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนกับชายซึ่งพูดภาษาจีนโต้ตอบกับนักท่องเที่ยว โดยใช้ถ้อยคำที่รุนแรงในลักษณะข่มขู่กลุ่มนักท่องเที่ยว จนกระทั่งนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวเกิดความหวาดกลัวและหนีจากทัวร์เพื่อเดินทางกลับประเทศ จึงสั่งการให้พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ นำกำลังตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยา พร้อมด้วย ตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ออกหาข่าว กระทั่งสืบทราบว่า เหตุการณ์ที่ปรากฎในคลิปวิดีโอเป็นกรณีของกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนรวมทั้งสิ้น 10 คน ที่เดินทางจากประเทศจีนมาท่องเที่ยวในประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.61 โดยมีบริษัท TYT (ไท่หวันเถิง) จำกัด เป็นผู้ดูแลการท่องเที่ยวในประเทศไทย และมีนาย ลี่ ไห อายุ 21 ปี สัญชาติจีน เป็นไกด์นำเที่ยว มีโปรแกรมการท่องเที่ยวทั้งในกรุงเทพมหานคร จ.ระยอง และเมืองพัทยา จ.ชลบุรี

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ เผยอีกว่า ส่วนเหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิปวิดีโอเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวถูกพามาท่องเที่ยวในเมืองพัทยา โดยก่อนหน้าที่จะมีการบันทึกภาพ นายลี่ ไห ได้บังคับให้นักท่องเที่ยวซื้อของฝากจากร้านแห่งหนึ่งในเมืองพัทยา แล้วเรียกเก็บเงินเพิ่มเติม แต่กลุ่มนักท่องเที่ยวปฏิเสธที่จะจ่ายเงิน ทำให้ไกด์เถื่อนรายนี้ไม่พอใจ และพูดจาข่มขู่กลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าว จนมีผู้ถ่ายคลิปไปเผยแพร่ในโลกออนไลน์ ทำให้เกิดความเสียหายด้านการท่องเที่ยว จึงติดตามไปจับกุมตัวนายลี่ ไห มาทำการสอบสวนและให้การรับสารภาพว่า โดยยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ปรากฏในคลิปวิดีโอและข่มขู่นักท่องเที่ยวจริง เนื่องจากนักท่องเที่ยวปฏิเสธที่จะจ่ายเงินที่เรียกให้จ่ายเพิ่มเติม

“สำหรับไกด์นำเที่ยวหรือผู้ประกอบการร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าให้กับนักท่องเที่ยว หากพบว่ามีการหลอกลวงหรือข่มขู่ให้นักท่องเที่ยวซื้อสินค้าหรือใช้บริการ ตำรวจจะทำการจับกุมดำเนินคดีขั้นเด็ดขาด ส่วนกรณีทัวร์ศูนย์เหรียญนั้น ปัจจุบันไม่มีแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการกวาดล้างจนหมดไปจากประเทศไทยแล้ว” พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าว

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหากับนาย ลี่ ไห ว่า “เป็นมัคคุเทศก์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” นอกจากนี้ยังจะได้ขออำนาจศาลออกหมายจับนายเจริญพร สุขวิถี อายุ 45 ปี กับนางรัตนา หงษ์ทอง อายุ 39 ปี กรรมการบริหารบริษัท TYT (ไท่หวันเถิง) จำกัด บริษัทต้นสังกัดของนายลี่ ไห ในข้อหาก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว รวมถึงเก็บค่าบริการต่ำกว่ากฎหมายกำหนด และไม่จัดให้มีมัคคุเทศก์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน