จากกรณี ที่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ สนช. ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการติดตามกลไกการปกป้องคุ้มครองสัตว์ เปิดเผยถึงรายงานผลการศึกษาเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการปัญหาลิงในพื้นที่วิกฤต คณะอนุกรรมการได้ร่วมกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช รวมทั้งทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำการศึกษาวิจัยในมิติต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง พบว่าปัญหาพิพาทระหว่างคนกับลิง รวมทั้งความเดือดร้อนรำคาญที่เกิดจากลิงในปัจจุบัน แผ่ขยายมากกว่า 50 จังหวัด

วันที่ 21 พ.ค. ที่ศาลากลาง นาย นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พร้อมคณะทำงานบรรเทาความเดือดร้อนฯ ได้ร่วม ชี้แจงที่มาที่ไป และแผนการดำเนินการอย่างละเอียดเพื่อให้ประชาชนเกดความเข้าใจร่วมกัน ว่า พื้นที่ที่เกิดปัญหาอยู่ 7 จุดโดยมีประชากรลิงคร่าวๆประมาณ 1,000 ตัว ทั้งลิงกังและลิงแสม ซึ่งเป็นลิงแสมประมาณ 600 ตัวและลิงกังประมาณ 400 ตัว

จากกรณีดังกล่าวจึงพิจารณาแนวทางการแก้ปัญหา ด้วยการย้ายประชากรลิงที่มีปัญหาไปอยู่ในสถานที่ที่เหมาะสม ซึ่งตามหลักทั่วไปคือต้องเป็นพื้นที่ป่า คือ เกาะแพ เกาะมาลี เกาะปายู และเกาะงำ ขนาดเนื้อที่ 17 ไร่ 2 งาน พบว่าไม่มีคนอยู่ และมีอาหารอุดมสมบูรณ์ ทั้งต้นไม้ใบไม้ และสัตว์ทะเลที่เป็นอาหารของลิงแสม ซึ่งกินปูกินหอยเป็นอาหารหลัก แม้ว่าลิงที่อยู่บางพื้นที่จะรับอาหารจากคนก็ตาม แต่เจ้าหน้าที่ยังได้สังเกตุพฤติกรรมการกินของมันพบว่าหาอาหารกินเองตามธรรมชาติได้

ช่วงแรกก็มีกระแสข่าวออกไปว่าจังหวัดจะนำลิงไปปล่อยเกาะ ทำให้สังคมไม่เข้าใจ และกังวลว่าจะทำให้ลิงอดอยากตาย จึงได้มีการชี้แจงไปว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้นเตรียมการ การที่จะนำลิงไปปล่อยได้นั้นต้องแน่ใจว่าทุกอย่างพร้อม และจะให้เป็นการให้ความเห็นหรือตัดสินใจของชาวบ้านในพื้นที่เป็นผู้พิจารณาร่วมกัน ชาวบ้านในบางพื้นที่ต้องการให้นำลิงออกไปไว้ที่เกาะ ในส่วนของพืชอาหารสัตว์ และเตรียมติดตั้งถังรองรับน้ำขนาด 3,000 ลิตร บนเกาะทุกเกาะ สำหรับให้ลิงใช้ดำรงชีวิตอยู่

ที่ผ่านมามีการประชาพิจารณ์แล้วว่าทำหมันลิงเสร็จจะให้อยู่ที่เดิมก็จะดำเนินการปล่อยกลับสู่ที่เดิม แต่ถ้าผลประชาพิจารณ์บอกว่าทำหมันแล้วจะให้ไปปล่อยยังพื้นที่ปลายทางก็จะมีความพร้อมขนย้ายไปยังพื้นที่ปลายทาง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน