โจรหญิงตัวใหญ่ บุกเดี่ยวยกตู้เซฟหนัก 50 ก.ก. จากร้านเค้กชื่อดัง

โจรหญิงตัวใหญ่ – ร้านเค้กชื่อดังใน อ.นาโยง จ.เมืองตรัง ถูกโจรหญิงบุกเดี่ยวย่องเข้ามายกตู้เซฟ ที่หนักถึง 50 ก.ก. ซึ่งภายในมีทรัพย์สิน 2 แสนบาท แล้วบรรทุกรถจยย.หลบหนีลอยนวล ทั้งที่ขณะนั้นมีผู้คนจำนวนมาก

เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 8 ก.ค. 2561 นายกมล และนางสายใจ รักวารี เจ้าของร้านเค้กสายใจ ร้านจำหน่ายของซื้อของฝาก และที่บริการจอดรถทัวร์ ตั้งอยู่ถนนเพชรเกษม ต.นาโยง อ.นาโยง จ.ตรัง พาผู้สื่อข่าวเข้าสำรวจพื้นที่ที่คนร้ายแอบลักลอบเข้ามาขโมยยกตู้เซฟ

กล้องวงจรปิดภายในร้านสามารถจับภาพไว้ได้ ซึ่งภายในภาพเห็นผู้หญิง รูปร่างใหญ่ อายุ 35-40 ปี ขับขี่รถจักรยานยนต์มาคนเดียว ก่อนจะเข้ามาจอดบริเวณข้างร้าน ซึ่งเป็นมุมค่อนข้างมืด และเดินลอดรั้วกันสาดเข้าไปตรงด้านหลัง ซึ่งเป็นแผงสำหรับจำหน่ายหมูย่าง

จากนั้นลักลอบเปิดประตูเข้าไปอย่างใจเย็น และอุ้มตู้เซฟออกมาวางไว้ที่หน้าประตู แล้วเดินกลับไปนำรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ เพื่อขับขี่มายกตู้เซฟขึ้นรถ และขับขี่หลบหนีไป

เจ้าของร้านกล่าวว่า ก่อนหน้านี้โจรหญิงคนดังกล่าว เคยเข้ามาแอบขโมยข้าวมาแล้ว แต่ได้ไปเพียงเหรียญที่อยู่ในกระปุก ซึ่งมีจำนวนไม่มากนัก จึงไม่ได้แจ้งความ แต่ผ่านมาแค่ 10 วัน โจรสาวคนดังกล่าวก็แอบเข้ามาขโมยอีก แต่ครั้งนี้ยกตู้เซฟไปทั้งตู้

สำหรับร้านเค้กสายใจ จะเปิดบริการ 24 ชั่วโมง เพราะเป็นจุดพักรถทัวร์ ในช่วงตอนกลางคืน นายอุดมศักดิ์ รักวารี ลูกชายเป็นคนดูแลร้าน ซึ่งตอนเกิดเหตุ เมื่อคืนวันที่ 3 ก.ค. นายอุดมศักดิ์ ลูกชาย นอนพักผ่อนอยู่บนบ้าน

หลังจากเกิดเหตุ เจ้าร้านได้แจ้งความ และนำกล้องวงจรปิดไปมอบให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาโยง แล้ว แต่ขอสื่อให้ช่วยเผยแพร่ข้อมูลอีกทาง เผื่อมีใครเคยเห็นโจรสาวรายนี้ จะได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ช่วยจับกุม

ด้านนายอุดมศักดิ์กล่าวว่า ดูจากพฤติกรรมของคนร้าย ทำการอย่างใจเย็นมาก และเป็นผู้หญิงที่มีบุคลิกที่แข็งแรงมาก เพราะสามารถยกตู้เซฟที่มีน้ำหนัก 40-50 กิโลกรัมได้ ซึ่งตนเองก็ไม่แน่ใจว่าการกระทำครั้งนี้ เป็นการก่อเหตุคนเดียว หรือมีการวางแผนหลายคน

โจรหญิงตัวใหญ่

นายอุดมศักดิ์กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุแล้วตนเองได้ติดตามกล้องวงจรปิด และตามมา 3-4 วันแล้ว ก็เห็นโจรสาวได้ขับขี่รถจักรยานยนต์คันที่ก่อเหตุ ผ่านวัดละมอ เลยไปทาง ต.ช่อง อ.นาโยง จ.ตรัง แล้วหายไป ซึ่งจะมีกล่องตู้เซฟของตนอยู่ด้านหลังไปด้วยตลอด ส่วนทรัพย์สินภายในตู้ มีปืน 1 กระบอก สร้อยคอทอง สร้อยข้อมือทอง พระเลี่ยมทอง แหวนทอง น้ำหนักประมาณ 8 บาท รวมราคาทรัพย์สินร่วม 200,000 บาท

“ฝากไปยังทุกคนให้ระวัง เพราะขนาดร้านของผม คนพลุกพล่าน ยังเกิดเหตุการณ์แบบนี้เลย จึงอยากให้ทุกคนที่ได้ยินข่าวนี้อย่าเผลอเรอเหมือนที่ตนเป็น หรืออย่าไว้ใจใครที่ไม่ใช่คนของตน เพราะขนาดมีรถบัสจอดอยู่ด้านหน้า คนอยู่นับร้อยคน ยังเจอเหตุการณ์แบบนี้ได้” นายอุดมศักดิ์กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน