ไม่ยุ่งอีกแล้ว! ยายยอมแล้วเลิกขายข้าวหมาก หันมาขายผักดอก-ผักดองดีกว่า

วันที่ 16 ส.ค. หลังจากเกิดกระแสดราม่า ข้าวหมาก หลังนางเสน่ห์ ป่วงรัมย์ อายุ 60 ปีและลูกสาวออกมาร้องเรียนขอความเป็นธรรม กรณีถูกเจ้าสรรพสามิตบุรีรัมย์ จับกุมขณะนั่งขายข้าวหมากห่อละ 5 บาทอยู่ที่ตลาดนัดคลองถมสี่แยกกระสัง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ โดยถูกควบคุมตัวไปเสียค่าปรับ 5 หมื่นบาท หากไม่จ่ายค่าปรับต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทำให้ยายถึงกับตกใจร้องไห้ ก่อนที่ลูกสาวจะมาขอความเมตตากับเจ้าหน้าที่เนื่องจากไม่มีเงิน จนสุดท้ายจากค่าปรับ 5 หมื่นบาทเหลือเพียง 1 หมื่นบาท

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมออกมาชี้แจง พร้อมหลักฐานเป็นสุราแช่ (สาโท) 11 ถุง พร้อมถังพลาสติกสี 1 ใบ และใบเสร็จรับเงิน ค่าปรับในคดีของกรมสรรพสามิต ลงวันที่ 22 ก.ค.2561 พร้อมระบุว่า ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีการลักลอบนำสุราแช่ หรือสาโท ใส่เป็นถุงมาวางขายที่ตลาดนัดคลองถม จึงไปตรวจสอบพบหญิงอายุประมาณ 60 ปีนั่งขายของอยู่และข้างๆ ตัวมีถังใส่สาโท มัดเป็นถุงใส่อยู่นับได้ 11 ถุง จึงแจ้งมีสุราแช่(เหล้าโท)ที่ผลิตขึ้นโดยฝ่าฝืน มาตรา 153 วรรคหนึ่ง ไว้ในความครอบครอง เป็นความผิดตามกฎหมาย อัตราโทษ ของกลางตั้งแต่สิบลิตรขึ้นไป ปรับ 10,000 บาท ยืนยันว่าไม่ได้มีการจับกุมคนขายข้าวหมาก ตามที่เป็นข่าว แต่เป็นการจับกุมผู้ครอบครองซึ่งสุราที่ผลิตขึ้น

โดยเรื่องนี้ ยายเสน่ห์ ออกมายืนยันว่า สิ่งที่ตนทำขายคือข้าวหมากห่อใบตอง ส่วนน้ำที่ใส่ถุงยอมรับเป็นของตัวเองจริง แต่ไม่ใช่น้ำสาโทตามที่เจ้าหน้าที่กล่าวอ้าง เป็นน้ำข้าวหมากผสมกับน้ำเปล่า ตนเอาไว้ขายเช่นเดียวกันในราคา 3 ถุง 50 บาท เพราะมีรสหวานผู้หญิงชอบรับประทาน

“จริงแล้วเจ้าหน้าที่สรรพสามิต น่าจะรู้ดีว่า หัวเชื้อข้าวหมาก กับหัวเชื้อสาโท แตกต่างกัน โดยเฉพาะหัวเชื้อข้าวหมากจะวางขายทั่วไป การจับกุมของเจ้าหน้าที่วันนั้นตนพยายามชี้แจง แต่เจ้าหน้าที่ไม่รับฟัง อ้างว่าผิดกฎหมาย ซึ่งตนยอมรับว่าไม่รู้ว่าผิดกฎหมาย เพราะเป็นอาหารภูมิปัญญาชาวบ้านที่ทำสืบทอดกันมา ที่ผ่านมาเคยทำข้าวหมากขายเพียง 2 ครั้งเท่านั้น หลังจากนี้ก็จะเลิกขาย จะไม่ยุ่งอีกแล้ว หันมาขายผักดอก ผักดองแทน ไม่อยากจะไปยุ่งเกี่ยวกับสิ่งที่เราไม่รู้กฎหมายลึกซึ้ง เพราะถึงเวลาเราก็จะแพ้ทางเจ้าหน้าที่ที่มีกฎหมายอยู่ในมืออยู่ดี” ยายเสน่ห์ ระบุ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน