อีโต้ฟันไม่ยั้ง แล้วเอาที่นอนปิดทับศพไว้ จากนั้น นอนเฝ้าศพ 3 คืน เมื่อเริ่มมีกลิ่นจึงหนีออกจากบ้านไปนอนในศาลากลางน้ำ และเมื่อรู้ว่ามีคนพบศพ จึงหนีไปนอนขดตัวในตู้เก็บของกลางตลาดในหมู่บ้าน สุดท้ายตำรวจตามเจอตัว ร่ำไห้สารภาพ ที่ทำลงไปเพราะแค้นที่ลูกสาวถูกข่มขืน และตัวเองต้องมารับกรรมต่ออีก

จากกรณี เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 ก.ย.61 ร.ต.อ.ปัญญา โยวะ รองสารวัตรสอบสวน สภ.ห้วยหลวง อ.เมือง จ.อุดรธานี รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีคนพบศพผู้เสียชีวิตส่งกลิ่นเน่าเหม็นอยู่ในบ้านเลขที่ 126 ม.5 บ้านหนองสวรรค์ ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงได้รายงานให้ผู้บังคับับญชาทราบและพร้อมด้วย พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ,พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ,พ.ต.ท.สมโภชน์ ประจิตร รอง ผกก.หน.สภ.ห้วยหลวง ,พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.ฯ ,พ.ต.ท.พัฒนวงศ์ จันทร์พลรอง ผกก.ป.ฯ ,แพทย์เวร ร.พ.อุดรธานี ,อาสามูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี และกำลังจำนวนหนึ่งีบรุดไปร่วมสอบสวนชันสูตรพลิกศพ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้สองชั้น สภาพเก่าทรุดโทรม ที่ห้องนอนด้านล่างพบบานประตูไม้เก่า มีกลิ่นเน่าเหม็นโชยออกมาอย่างรุนแรง เมื่อเปิดประตูออกก็พบว่ามีที่นอนทับร่างผู้เสียชีวิต โผล่เห็นเท้าซ้าย เมื่อเปิดดูก็พบศพผู้เสียชีวิตสภาพศพเปลือยกายนอนคว่ำหน้า มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ท้ายทอยจนกระโหลกแตก และแผ่นกลางหลัง สภาพศพเน่าเฟะขึ้นอืด คาดว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 วัน ในห้องที่พบศพมีร่องรอยการต่อสู้ ที่นอนขาด คาดว่าคนร้ายที่ก่อเหตุอยู่ด้วยกันในห้องนอน ก่อนจะคว้ามีดอีโต้ฟันผู้ตายอย่างแงทางด้านหลังนเสียชีวิตแล้วหลบหนีไป โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดมีดอีโต้ขนาดใหญ่ ตกอยู่ในห้อง คาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้ทำร้ายผู้ตาย และตรวจเก็บลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายเอาไว้

สอบสวนทราบว่าผู้ตายคือนายจิระศักดิ์ พิพิจิตร อายุ 41 ปี ที่อยู่ตามบัตรประชาชนระบุเลขที่ 114 ม.5 บ้านหนองสวรรรค์ ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี คาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนใกล้ชิด ที่อยู่ด้วยกันในวันเกิดเหตุ และมีปากเสียงทะเลาะกันรุนแรง โดยมีร่องรอยบาดแผลทั่วตัว ก่อนที่คนร้ายจะใช้มีดอีโต้ฟันทางด้านท้ายทอยจนเสียชีวิต แล้วหลบหนีไปด้วยการเอาที่นอนปิดทับศพเอาไว้ และคนและใหล้หรือภรรยาได้หายตัวไป กระทั่งชาวบ้านได้กลิ่นเน่าเหม็นเหมือนซากศพโชยออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว ทีแรกคิดว่าผู้ตายไปทำงานรับจ้างที่ต่างจังหวัด กระทั่งพบว่าเป็นศพขึ้นอืดในบ้านดังกล่าว..ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ต่อมาเวลา 22.00 น.วันเดียวกัน พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.ฯ , พ.ต.ต.ธีรพงษ์ องอาจ สว.สส.ฯ ประชุมสรุปผลการสืบสวนคดี จนทราบว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่ใครที่ไหนคือญาติผู้น้องบ้านติดกัน คือ น.ส.วนิดา วงษ์สา อายุ 39 ปี หลังเกิดเหตุผู้ต้องหาได้หายไปจากบ้านพักนานกว่าสองวันแล้ว โดยชุดสืบสวนสืบทราบมาว่า ผู้ต้องหารายนี้ได้ไปหลบซ่อนตัวที่ศาลากลางหนองน้ำบ้านหนองสวรรค์ จึงได้ติดตามไปแต่ไม่พบ กระทั่งล่าสุดมีพยานระบุว่าผู้ต้องหาไปหลบซ่อนตัวอยู่ในตลาดไทยศิริ 3 บ้านวัวข้อง ถ.อุดร-กุดจับ ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี จึงได้ไปตาวจสอบพบว่า ผู้ต้องหาหลบซ่อนตัวในตู้เก็บของของแผงขายขางในตลาด และควบคุมตัวไว้ได้ ในสภาพอิดโรยและตาเหม่อลอยเพราะอดนอน และยังพูดจาเพ้อเจ้อว่าถูกผีผู้ตายมาหลอกหลอน

หลังจากคุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี ก็ยอมรับสารภาพว่า ตนมีอาชีพรับจ้างทำงานในร้านขายเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้ในเกษตรกรรม ในตัวเมืองอุดรฯ และหย่าร้างกับสามี มีลูกชายอายุ 19 ปี ลุกสาวอายุ 17 ปี ส่วนนายจิระศักดิ์ พิพิจิตร อายุ 41 ปี ผู้ตาย เป็นญาติผู้พี่ หรือเป็นลูกชายของป้า มีอาชีพรับจ้างทั่วไป ไม่มีครอบครัว เมื่อประมาณเดือนที่ผ่านมาตนจับได้ว่าผู้ตายมาข่มขืนลูกสาว แต่ไม่อยากให้เรื่องถึงหูชาวบ้านจึงอดทนเก็บเรื่องแค้นเอาไว้ในใจ ต่อมาผู้ตายก็มาบังคับข่มขืนตนแทน เนื่องจากบ้านอยู่ใกล้กัน ผู้ตายมักจะมาเคาะประตูเรียกตอนกลางดึก โดยผู้ตายเก็บความลับเรื่องที่ตนแอบเสพยาบ้า ตนจึงยอมให้ข่มขืนไป 2 ครั้ง อีกเพราะไม่ต้องการให่ไปยุ่งเกี่ยวกับลูก ต่อมา พี่ชายของตน ระแคะระคายจับได้ว่าผู้ตายแอบมาหาตนที่บ้าน จึงต่อว่า ให้เลิกยุ่งเกี่ยวเพราะเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกัน กระทั่งคืนเกิดเหตุประมาณช่วงตีสองตีสามของวันที่ 3 ก.ย.61 ที่ผ่านมา ขณะที่ตนนอนพักผ่อนอยู่ในห้องนอนชั้นล่างของบ้าน ส่วนลูกสาวและลูกชายก็นอนอยู่ชั้นบน ผู้ตายเข้ามาบังคับข่มขืน แต่ตนไม่ยอม มื่อผู้ตายเผลอ ตนจึงคว้าเอามีดอีโต้ฟันไปที่บริเวณใบหน้า 4 – 5 ครั้ง เมื่อผู้ตายแน่นิ่งและมั่นใจว่าตายสนิท ตนจึงได้นำเอาที่นอนมาปิดทับไว้

น.ส.วนิดา ให้การต่ออีกว่า จากนั้นตนก็นอนอยู่ในห้องกับศพอีก 3 วัน เมื่อศพเริ่มมีกลิ่น จึงได้อกจากบ้านไปหลบซ่อนตัวในศาลากลางน้ำบ้านหนองสวรรค์ 2 คืน ก่อนจะมาได้ยินชาบ้านพูดกันว่าเจอศพแล้ว จึงหลบหนีไปซ่อนตัวในตู้เก็บของในตลาด แต่ก็มีชาวบ้านจำได้แจ้งตำรวจตามจับตัวไว้ได้ โดยตลอดเวลาที่หลบหนีไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะผีผู้ตายตามมาหลอกหลอนตลอดเวลา

ด้าน พ.ต.ต.ธีรพงษ์ องอาจ สว.สส.ฯ เปิดเผยว่า ผู้ต้องหายอมรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา แต่ที่หลบหนีเพราะตกใจกับเหตุการณ์ที่ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เป็นผู้ถูกกระทำมาก่อน เลยเก็บความแค้นฝังใจ ทั้งเรื่องลูกสาวและเรื่องตนเองที่ถูกบังคับขืนใจ เลยเก็บความแค้นเอาไว้เมื่อได้โอกาสจึงลงมือฆ่า แต่ด้วยความกลัวจึงปกปิดศพเอาไว้ในห้องนอนของตัวเอง เนื่องจากเป็นบ้านใกล้กันกับผู้ตาย ไม่มีใครสงสัย เมื่อกลัวผู้ตายหลอกหลอนจึงหนีซมซานไปอีก ตอนนี้ให้พักผ่อนเพื่อให้ผู้ต้องหาได้ผ่อนคลาย และหายเครียด ก่อนจะคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมายกันต่อไป

อ่านข่าวประกอบ

สุดเหี้ยม! ฆ่าเปลือย “หนุ่มอุดร” ใช้มีดอีโต้ฟันหัว-สับหลัง หมกศพเป็นอาทิตย์

ล่าสาวต้องสงสัย ฆ่าโหดญาติ ใช้มีดอีโต้ฟันหัว-สับหลัง นอนกับศพ 2 คืน ก่อนหลบหนี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน