พบตัวแล้ว! หญิงป่วนขอปล้นแบงก์ ที่แท้เป็นอดีตเศรษฐินี ด้านผกก.จ่อแจ้งความถูกอ้างชื่อ

จากกรณีเมื่อวันที่ 9 ก.ย. พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.ฯ, พ.ต.ต.ธีรพงษ์ องอาจ สว.สส.ฯ นำกำลังรุดไปตรวจสอบและสอบสวนที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าอุดรธานี ชั้น 3 เนื่องจากมีคนส่งข้อความขอปล้นธนาคาร

อ่านข่าว แบงก์ตกใจผงะ! เจอสาวใหญ่เขียนชื่อ ‘ผกก.-นช.’ ยื่นขอปล้นธนาคาร

จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุช่วงบ่ายมีหญิงหน้าตาดีคนหนึ่ง อายุประมาณ 40-50 ปี แต่งกายภูมิฐาน เดินเข้ามาในธนาคารเพื่อขอทำธุรกรรมโอนเงิน โดยโอนเงินจำนวน 200 บาทไปที่บัญชีของเพื่อน จากนั้นได้ยื่นใบสลิปแบบเดียวกันให้ แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารไม่ได้เอะใจอะไร เมื่อหญิงสาวคนดังกล่าวเดินออกจากธนาคารไป จึงมาเปิดดูก็พบข้อความเขียนไว้ว่า “วีระชาติ สุบงกช จะขอปล้นธนาคาร นำหน้า นช.วรวรรณ ผาจันทร์” สร้างความตกใจให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก จึงแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบ

จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า ผู้ต้องสงสัยเป็นหญิงสาว สวมกางเกงขายาวแบบผ้ายืดลายดอกแฟชั่น สวมรองเท้ากีฬายี่ห้อดัง เสื้อยืดแขนสั้นสีขาว มีลายที่หน้าอก สะพายกระเป๋าสีดำ เดินเข้ามาทำธุรกรรมการเงินแล้วเดินออกไป

ปล้นแบงก์

อดีตเศรษฐินีส่งข้อความป่วน อ้างชื่อผกก.ขอปล้นแบงก์

ด้าน พ.ต.อ.วีระชาติ สุบงกช ผกก.อก.ภ.จว.มหาสารคาม เปิดเผยว่า ได้รับข้อความติดต่อมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี แล้ว เนื่องจากชื่อของตนไปตรงกับข้อความในกระดาษ ที่ระบุว่าจะไปปล้นธนาคาร พร้อมนักโทษชายคนหนึ่ง ไม่รู้ว่าหญิงสาวคนดังกล่าวไปเอาชื่อของตนมาจากไหน ซึ่งตนกำลังอยู่ระหว่างไปราชการที่ จ.ลำปาง เมื่อดูภาพจากกล้องวงจรปิด ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นใคร ยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้อความดังกล่าวที่หญิงสาวคนนั้นอ้างว่าจะไปปล้นธนาคาร

หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทางชุดสืบสวนจะได้สืบสวนหาตัวหญิงสาวคนดังกล่าวมาสอบสวนว่ามีเจตนาอะไรในการเขียนข้อความข่มขู่ หรือคุกคามสถาบันการเงินเพื่อจุดประสงค์อะไร และทำไมต้องใช้ชื่อของ พ.ต.อ.วีระชาติ พร้อมตรวจสอบว่า นช.วรวรรณ ผาจันทร์ มีจริงหรือไม่ เบื้องต้นทางธนาคารยังไม่ให้ข้อมูลของลูกค้า เนื่องจากเกรงว่าจะมีผลเสียตามมาภายหลัง

ล่าสุดวันที่ 12 ก.ย. พ.ต.อ.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.ฯ ,พ.ต.ต.ธีรพงษ์ องอาจ สว.สส.ฯ ได้เดินทางเข้าพบผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย สาขาห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลพลาซ่าอุดรธานี เพื่อขอดูหลักฐานการโอนเงินของหญิงสาวผู้ต้องสงสัย ว่าทำการโอนเงินไปที่ไหน กระทั่งพบว่า ปลายทางที่มีการโอนเงินไปให้คือนายคิม นามสมมติ อายุ 25 ปี ชาว ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

ปล้นแบงก์

ข้อความที่อดีตเศรษฐินีส่งให้เจ้าหน้าที่ธนาคาร

จึงมีการตรวจสอบไปที่บ้านพักของนายคิม และได้รับคำตอบว่า ผู้ที่ทำการโอนเงินมาให้นั้นคือนางเอ นามสมมติ อายุ 52 ปี ชาว ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นอดีตเศรษฐีนี ทำธุรกิจเดินรถโดยสาร แต่ระยะหลังไม่ได้ทำกิจการแล้ว เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ เมื่อตรวจสอบทะเบียนประวัติภาพถ่ายบุคคลของหญิงสาวต้องสงสัย มาประกอบการสอบสวนสืบสวน และให้พยานที่เป็นพนักงานธนาคารดูก็ยืนยันว่าเป็นบุคคลที่นำกระดาษสลิปเงินฝากเขียนข้อความ “วีระชาติ สุบงกช จะขอปล้นธนาคาร นำหน้า นช.วรวรรณ ผาจันทร์ ”

พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี ได้สั่งการให้ตรวจสอบประวัติผู้ต้องสงสัยให้ละเอียดโดยระบุว่า น่าจะมีเหตุไม่ปกติกับตัวบุคคล เนื่องจากคนทั่วไปคงไม่ทำเรื่องแบบนี้ ขณะที่ พ.ต.ท.สิทธิพร ธารากุลทิพย์ รอง ผกก.สส.ฯ เปิดเผยว่า ตอนนี้ได้หลักฐานทุกอย่างแล้ว เหลือเพียงการประสานไปยัง พ.ต.อ.วีระชาติ สุบงกช ผกก.ฝอ.ภ.จว.มหาสารคาม ผู้เสียหาย มาแจ้งความดำเนินคดีในความผิดฐาน หมิ่นประมาท เพราะตอนนี้ยังไม่สามารถออกหมายเรียกผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนได้ ต้องผ่านขบวนการแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายเสียก่อน ส่วนพนักงานธนาคารยังหวาดผวากับเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะกลัวว่าจะมีเหตุปล้นธนาคารขึ้นมาจริงๆ

ด้าน พ.ต.อ.วีระชาติ สุบงกช ผกก.ฝอ.ภ.จว.มหาสารคาม เผยภายหลังทราบตัวหญิงคนดังกล่าวว่า ตนเคยรับราชการอยู่ที่ จ.อุดรธานีมาตั้งแต่เป็นรองสารวัตร และเป็น ผกก.ฝอ.ภ.จว.อุดรธานี เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ได้มีหญิงสาวต้องสงสัยชื่อ ออ นามสมมติ อายุ 52 ปี เป็นเจ้าของธุรกิจรถยนต์โดยสารประจำทางในจังหวัดอุดรธานี ได้เข้ามาปรึกษาเพื่อหารือเรื่องแจ้งความดำเนินคดีกับทางวัดป่าแห่งหนึ่ง

พ.ต.อ.วีระชาติ กล่าวต่อว่า หลังจากทำธุรกิจประสบปัญหาขาดทุน หญิงดังกล่าวได้พาครอบครัวไปพึ่งทางวัดศึกษาธรรมะ และมีปัญหาเรื่องวัดยืมเงินไปจำนวนหลายแสนบาท แต่ไม่ได้คืน เลยอยากจะแจ้งความดำเนินคดีกับพระและทางวัด จึงแนะนำให้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองอุดรธานี ส่วนเรื่องดำเนินคดีกับหญิงสาวคนนี้ จะเดินทางไปแจ้งความภายหลังที่ทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ในความผิดฐานหมิ่นประมาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน