สุดสลดดาบตำรวจวัย 50 ปีที่บุรีรัมย์ เครียดปัญหาสุขภาพรุมเร้าเข้า-ออก รพ.ประจำ ใช้ปืน 11 มม.จ่อขมับลั่นไกระเบิดสมองตัวเองดับคาสวน ภรรยากลับจากประชุมไม่เจอสามีอยู่บ้านออกไปตามหาที่สวนแทบช็อกพบกลายเป็นศพแล้ว ขณะพี่สาวเผยทั้งน้ำตาน้องเคยพูดตัดพ้อกับครอบครัวหลายครั้ง ว่าสงสารลูกเมียไม่อยากเป็นภาระ นึกไม่ถึงน้องชายจะคิดสั้น

เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (16 ก.ย.61) ร.ต.อ.พงศกร วิเศษนอก รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.หนองหงส์ จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุคนยิงตัวเองเสียชีวิต ที่บ้านขาม ต.ไทยสามัคคี อ.หนองหงส์ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนจะพร้อมด้วย ร.ต.อ.มณเทียร จิตรบุญศรี รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.หนองหงส์ เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ และแพทย์เวรโรงพยาบาลหนองหงส์ รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นสวนอยู่ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 500 เมตร พบศพ ด.ต.นิวัฒน์ อินทร์นอก อายุ 50 ปี เป็นข้าราชการตำรวจสังกัด สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้นดินทางเดินเข้า-ออกภายในสวน ในสภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้น กางเกงขาสั้นและรองเท้าแตะ จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้นพบบริเวณขมับด้านขวามีร่องรอยถูกยิงกระสุนฝังใน เลือดไหลนองเต็มพื้น โดยในมือด้านขวามีอาวุธปืนวางอยู่ด้วยในลักษณะหันปากกระบอกเข้าหาตัว ทั้งนี้ยังพบกระสุนปืนขนาด 11 มม.ตกอยู่บริเวณขาของผู้ตาย 2 นัด ห่างจากศพประมาณ 1 เมตรพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่อีก 1 ปลอก เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการตรวจสอบบริเวณโดยรอบจุดเกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ จึงสันนิษฐานว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย

จากการสอบสวนทราบว่าผู้ที่มาพบศพ คือ นางปาริฉัตร ภรรยาของผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นข้าราชการครูอยู่โรงเรียนแห่งหนึ่ง ที่กลับจากประชุมมาถึงบ้านแล้วไม่เจอสามี จึงถามพ่อก็บอกว่าสามีขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างออกไปสวน เพื่อไปเกี่ยวหญ้ามาให้ควายที่เลี้ยงไว้ แต่เห็นว่าเย็นแล้วสามียังไม่กลับเข้าบ้าน จึงออกไปตามหาก็พบร่างสามีนอนอยู่พื้นดินในสภาพเลือดไหลนองเต็มพื้น และมีอาวุธปืนอยู่บนมือ ก็ตกใจแทบช็อกทำอะไรไม่ถูก จึงรีบบอกพ่อแม่ให้มาดูและโทรแจ้งตำรวจดังกล่าว

จากการสอบถามนางเสถียรรัตน์ อินทร์นอก พี่สาวของผู้เสียชีวิต บอกว่า ด.ต.นิวัฒน์ น้องชายมีอาการป่วยเป็นโรคซึมเศร้าประมาณ 2 ปีแล้ว เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลอย่างต่อเนื่อง ระยะหลังก็ป่วยเป็นกรดไหลย้อนเข้า-ออกโรงพยาบาลเป็นประจำ ทำให้มีอาการเหนื่อยง่าย ก่อนหน้านี้เคยได้ยินน้องชายพูดในลักษณะตัดพ้อกับปัญหาสุขภาพของตัวเองอยู่บ่อยครั้ง ว่าสงสารลูกเมียที่ตัวเองต้องมาเป็นภาระ ซึ่งตนก็จะคอยปลอบน้องให้ทำใจสบายๆ อย่าคิดมาก แต่ไม่คิดว่าน้องชายจะมาตัดสินใจคิดสั้นฆ่าตัวตายแบบนี้

อย่างไรก็ตามถึงแม้ครอบครัวจะไม่ได้ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิต เพราะเชื่อว่าน่าจะเป็นการฆ่าตัวตาย จากปัญหาสุขภาพที่รุมเร้า แต่ก็ต้องส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลมหาราช จ.นครราชสีมา เพื่อยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง ก่อนจะมอบศพให้ครอบครัวนำไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน