วันที่ 12 ต.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา พร้อมสายตรวจตู้ยามประจำตำบลเสม็ดใต้ เข้าควบคุมตัว น.ส.จันจิรา คงเจริญ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/1 หมู่ 2 ต.คลองขุด อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา อาชีพรับจ้างเป็นแม่บ้านรับเลี้ยงเด็ก ที่ก่อเหตุแอบฉกเงินในกระเป๋าของนายจ้าง ที่วางไว้บนโซฟาภายในบ้านเลขที่ 81/1 หมู่ 4 ต.เสม็ดใต้ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.วรรณษา วาณิชย์ถนอม อายุ 31 ปี ผู้เป็นนายจ้างไป

ก่อนที่จะหวนกลับมาก่อเหตุวางเพลิงเผาบ้านหลังดังกล่าวเมื่อช่วงเวลา 05.00 น.ที่ผ่านมา ขณะที่นายจ้างพร้อมด้วยสามีกำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ที่บนชั้น 2 ของตัวบ้าน แต่โชคดีที่คนรับใช้ภายในบ้านรายอื่นตกใจตื่นขึ้นมาเห็นก่อน ร้องเรียกให้เจ้าของบ้านมาช่วยกันดับเพลิงเอาไว้ได้ทัน จึงทำให้พื้นบ้านซึ่งเป็นแผ่นไม้ปาเก้ ภายในห้องนั่งเล่นหน้าบ้านพร้อมด้วยโซฟาชุดใหญ่ถูกเพลิงเผาไหม้เสียหายไปทั้งชุด และตัวอาคารภายในบ้านถูกควันไฟรมจนมีคราบเขม่าสีดำฟุ้งกระจายติดไปทั่วทั้งหลัง

จากการสอบสวน น.ส.จันจิรา ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ได้เข้ามาทำงานให้นายจ้างมาเป็นเวลาประมาณ 1 เดือนเศษ ก่อนที่จะแอบฉกทรัพย์สินจากในกระเป๋าใส่เงินของนายจ้างที่วางเอาไว้อยู่ในห้องนั่งเล่นบนโซฟาไปจริง เป็นจำนวนเงินกว่า 3,000 บาท

จากนั้นจึงกลับไปยังบ้านพักในพื้นที่ ต.คลองขุด ซึ่งเป็นตำบลใกล้เคียงพื้นที่ติดกัน แต่เกรงว่านายจ้างจะตื่นขึ้นมาแล้วรู้ว่าแอบขโมยเงินจากกระเป๋าไป จึงได้คิดวางแผนขึ้นมาตั้งแต่ในช่วงเช้ามืดเพื่อนำน้ำมันเบนซินใส่ขวดเครื่องดื่มน้ำอัดลมมาเทลาดวางเพลิงเผาโซฟาเพื่ออำพรางคดี

โดยตนต้องการนำเงินไปส่งค่างวดรถจยย. จำนวน 2,400 บาท และใช้จ่ายในการเลี้ยงดูลูก 2 คน อายุ 6 ขวบ และ 10 ขวบ เนื่องจากตนมารับจ้างเลี้ยงดูลูกของนายจ้างได้เงินค่าจ้างเพียงวันละ 250 บาท ส่วนสามีมีอาชีพเป็นช่างเชื่อมมีรายได้รวมกันยังไม่พอใช้จ่ายในบ้าน จึงตัดสินใจก่อเหตุดังกล่าวขึ้น

ด้านนายน้อย (นามสมมติ) อายุ 59 ปี พ่อของเจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ กล่าวว่า อยากฝากเตือนไปยังผู้ที่คิดจะจ้างคนเข้ามาทำงานใกล้ชิดในบ้านพักอาศัยด้วยว่า ขอให้ดูให้ดีๆ ต้องรู้หัวนอนปลายเท้าให้มากที่สุด สำหรับตนนั้นก็คิดว่าได้คัดเลือกดูมาเป็นอย่างดีแล้ว เพราะเห็นว่าเป็นคนที่มีพื้นเพอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน ก็ยังมาถูกลอบก่อเหตุลักทรัพย์ และวางเพลิงเผาบ้านแบบนี้อีก หากไม่มีคนตื่นมาเห็นบ้านทั้งหลังก็อาจจะถูกเพลิงเผาไหม้ไปหมด รวมถึงเจ้าของบ้านที่กำลังนอนหลับพักผ่อนอยู่ก็อาจเสียชีวิตในกองเพลิงไปพร้อมกันหมดทั้งครอบครัวด้วย

และหลังจากก่อเหตุ น.ส.จันจิรา ยังเดินทางกลับไปบ้านก่อนที่จะอาบน้ำเดินทางกลับมาทำงานใหม่ตามปกติในช่วงเช้าเวลา 08.00 น. ทำทีเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีกทั้งยังเข้ามาช่วยเก็บกวาดถูบ้านตรงบริเวณจุดเกิดเหตุที่ได้ลงมือเผาไว้อีกด้วย แต่พอในช่วงสายลูกสาวและลูกเขยของตน รู้สึกเอะใจ จึงได้เปิดภาพจากกล้องวงจรปิดภายในบ้านดูจึงทราบว่าคนใช้รายนี้เป็นคนร้ายที่ก่อเหตุ จึงได้โทรศัพท์แจ้งตำรวจให้เข้ามาควบคุมตัวไปดำเนินคดี ทั้งที่ครั้งแรกตนเข้าใจว่าเป็นเหตุไฟฟ้าลัดวงจรที่โครมไฟก่อนตกลงมาลุกไหม้โซฟาที่ตั้งอยู่กลางพื้นห้องนั่งเล่นดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน