ขนส่งกำแพงเพชร ฟันหนักรถตู้มรณะ 9 ศพ แฉปิดจีพีเอส จนจับความเร็วไม่ได้

ฟันหนักรถตู้มรณะ – เมื่อวันที่ 22 ต.ค. นายสุรชัย ทับยา ขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยกับ “ข่าวสด” กรณีรถตู้บรรทุกผู้โดยสารแรงงานข้ามชาติประสบอุบัติเหตุ มีผู้เสียชีวิต 9 ศพ และมีผู้บาดเจ็บ 6 ราย ขณะนี้ผู้บาดเจ็บยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลคลองขลุง 4 ราย และผู้บาดเจ็บสาหัส 2 รายถูกส่งมารักษาตัวที่โรงพยาบาลกำแพงเพชร

เบื้องต้น นายคมวัฏ แซ่พู คนขับรถยังอยู่ในอาการสาหัส ยังไม่สามารถสอบปากคำได้ ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 9 ศพ ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลตำรวจ กรุงเทพฯ เพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์ ส่วนมาตรการในการเข้มงวดเรื่องของความปลอดภัย จะตรวจจับความเร็วให้ถี่ขึ้น สัปดาห์ละ 3 ครั้ง เพื่อเข้มงวดกวดขันความเร็ว และป้องกันอุบัติเหตุบนท้องถนน

นายสุรชัย ทับยา ขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร

นายสุรชัย ทับยา ขนส่งจังหวัดกำแพงเพชร

ทั้งนี้ เบื้องต้นความรับผิดในฐานะเป็นผู้ขับรถ คือ กรณีรับบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งผู้โดยสารที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตประกอบการขนส่ง (กำหนดผู้โดยสารไว้ไม่เกิน 12 คน) แต่บรรทุกผู้โดยสาร 14 คน รวมทั้งคนขับรถด้วยรวมเป็น 15 คน จึงเป็นความผิดตามมาตรา 107 กรณีรับบรรทุกผู้โดยสารเกินจำนวนที่นั่งผู้โดยสารที่กำหนดไว้ในใบอนุญาตประกอบการขนส่ง จึงต้องระวางโทษตามมาตรา 127

กรณีผู้ปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้ประจำรถฝาฝื่นหรือไม่ปฎิบัติตามมาตรา 107 ต้องระวางโทษไม่เกิน 5,000 บาท และกรณีนี้เป็นการขับรถที่ก่อให้อุบัติเหตุร้ายแรงจนทำให้มีบาดเจ็บ 6 รายและเสียชีวิต 9 ราย จึงเห็นควรให้พักใช้ใบอนุญาติเป็นผู้ขับรถทุกประเภท ชนิทที่ 2 จึงทำหนังสือแจ้งนายทะเบียนประจำจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อพิจารณาในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

กรณีเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตปฎิบัติหน้าที่เป็นผู้ขับรถต้องใช้อุปกรณ์และส่วนควบของรถ หรืออุปกรณ์และเครื่องมือเครื่องใช้ที่จำเป็นตามที่กฎหมายกำหนด ได้แก่ เครื่องจีพีเอส แต่ไม่ใช้จีพีเอส เชื่อมต่อกับศูนย์จีพีเอส

จึงเป็นการไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. 2558 ข้อ 5 (2) (ง) และผู้ประจำรถยังไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัย ตามมาตรา 102 (4) ต้องระวางโทษตามมาตรา 127 ซึ่งกำหนดให้ผู้ประจำรถผู้ใดฝ่าฝีนหรือไม่ปฎิ บัติตามมาตรา 102 (4) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท

ส่วนความรับผิดในฐานะเป็นผู้ประกอบการขนส่งผู้โดยสารไม่ประจำทาง กรณีผู้ประกอบการขนส่งไม่ควบคุม กำกับ ดูแลผู้ขับรถทำให้มีการบรรทุกผู้โดยสาร 14 คน เกินจำนวนที่นั่ง 12 ที่นั่ง นอกจากลงโทษเปรียบเทียบปรับตามข้อหาความผิดแล้ว ให้นายทะเบียนประจำจังหวัดที่พบการ กระทำความผิด (นายทะเบียนประจำจังหวัดกำแพงเพชร) พิจารณาสั่งระงับใช้รถ

กรณีกระทำความผิดครั้งแรก ให้สั่งระงับใช้รถเป็นเวลาไม่เกิน 15 วัน กรณีผู้ประกอบการขนส่งไม่ปฎิ บัติตามข้อกำหนดว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งตามที่กำหนดในกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. 2558 ซึ่งออกตามมาตรา 36 และต้องระวางโทษตามมาตรา 131

กรณีผู้ประกอบการขนส่งไม่ปฎิบัติตามกฎกระทรวงความมปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ.2558 ข้อ 3 (7) ซึ่งกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องควบคุม กำกับ ดูแลให้ผู้ขับรถใช้เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถ ได้แก่ เครื่องจีพีเอส พบว่ารถมีเครื่องจีพีเอส ตามที่กำหนดในกฎกระทรวง แต่ไม่เชื่อมต่อกับศูนย์จีพีเอส จึงต้องระวางโทษปรับตามมาตรา 131 ไม่เกิน 50,000 บาท

รถตู้มรณะ

รถตู้มรณะ

กรณีรถตู้เช่าเหมาคัน 33 – 2779 กทม. เกิดอุบัติเหตุรถชนต้นไม้ข้างทางไฟลุกไหม้รถตู้ทั้งคันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บสาหัส 2 รายและบาดเจ็บเล็กน้อย 4 ราย อุบัติเหตุในครั้งนี้ร้ายแรงมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 7 คน เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมและตัวรถตู้คันดังกล่าวเสียหายอย่างรุนแรง ไม่สามารถนำมาใช้ทำการขนส่งได้อย่างปลอดภัย จึงอาศัยอำนาจตามข้อ 1(3) วรรคท้าย ของหนังสือกรมการขนส่งทางบกที่ คค. 0408/ว.326 ลว.12เมษายน 2560

กำหนดให้นายทะเบียนประจำจังหวัดกำแพงเพชรซึ่งเป็นนายทะเบียนในท้องที่ที่รถตู้เช่าเหมาเกิดอุบัติเหตุเสนอความเห็นให้ผู้อำนวยการสำนักการขนส่งผู้โดยสาร (นายทะเบียนแห่งท้องที่ที่รถคันดังกล่าวจดทะเบียน) พิจารณาเพิกถอนการจดทะเบียนรถคันดังกล่าวต่อไป พร้อมนี้ได้ทำหนังสือแจ้งผู้อำนวยการสำนักการขนส่งผู้โดยสารดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน