วันที่ 22 ต.ค. ร.ต.อ.พงษ์วุฒิ วุฒิพงษ์ รอง สว.(สอบสวน) สภ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งเหตุรถกระบะห้องเย็นชนเด็กเสียชีวิตแล้วหลบหนี ที่ถนนทุ่งใหญ่-ลำทับ หมู่ 5 ต.กะแหระ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.ชัยภัทร ศรีเรือง รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งใหญ่ ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวร ร.พ.ทุ่งใหญ่ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์
ที่เกิดเหตุพบศพ ด.ช.เปี๊ยก (นามสมมติ) อายุ 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ทุ่งใหญ่ นอนเสียชีวิตอยู่ริมถนน อยู่ในชุดเสื้อโปโลแขนสั้นสีฟ้า นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีฟ้า สภาพศีรษะแตกเป็นแผลฉกรรจ์ มันสมองและเลือดไหลกระจาย โดยมีพ่อแม่และญาติร้องให้ด้วยความเสียใจ ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถกระบะห้องเย็น ยี่ห้อโตโยต้า สีบรอนซ์เงิน ทะเบียน ผข-171 นครศรีธรรมราช ได้ขับหลบหนีไปก่อนหน้านี้
นางวิภารัตน์ อายุ 45 ปี แม่ของ ด.ช.เปี๊ยก ให้การทั้งน้ำตาว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ขี่รถ จยย.มา โดย ด.ช.เปี๊ยก นั่งกลาง และพี่สาวของตนนั่งท้ายสุด เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุได้จอดรถ จยย.เพื่อเตรียมข้ามถนนไปซื้อของกินที่ถนนฝั่งตรงข้าม และขณะที่กำลังยืนรอให้รถผ่านเพื่อจะข้ามถนน ปรากฏว่ารถกระบะคันดังกล่าวขับมาด้วยความเร็วสูงมาก ก่อนเสียหลักพุ่งชนลูกชายที่ยืนอยู่ริมถนน จนร่างกระเด็นไปเกือบ 10 เมตร จากนั้นรถกระบะคันดังกล่าวก็รีบเหยียบคันเร่งขับหลบหนีไป
อย่างไรก็ตามพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์ได้ขับรถยนต์ไล่ตามพร้อมแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสกัดจับ จนกระทั่งพบว่ารถได้ขับหนีเข้าไปในตลาดท่ายาง อ.ทุ่งใหญ่ ตำรวจจราจรจึงเข้าปิดล้อมจนสามารถจับกุมคนขับได้ในที่สุด ทราบชื่อคือ นายนรากร รักษ์วงศ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 201 หมู่ 5 ต.บางขัน อ.บางขัน จ.นครศรีธรรมราช จากนั้นจึงถูกควบคุมตัวไปสอบปากคำที่โรงพัก
จากการสอบสวน นายนรากร ให้การรับสารภาพโดยอ้างว่า ได้ขับรถห้องเย็นเพื่อไปรับไข่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งขับมาด้วยความเร็ว พอมาถึงที่เกิดเหตุเห็นเด็กยืนอยู่ริมถนนกำลังจะข้ามถนน ด้วยความเร็วของรถทำให้เบรกไม่ทันจึงพุ่งชนอย่างจัง ด้วยความตกใจจึงรีบขับรถหนีไปตั้งหลักเข้าในตลาดและเตรียมที่จะเข้ามอบตัวที่โรงพัก แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน และเพิ่งทราบว่าเด็กที่ตนขับรถชนนั้นเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงนำตัวนายนรากร ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
