จากกรณีคนร้ายสวมหมวกไหมพรมดักชิงทรัพย์ น้องกิ๊ฟ อายุ 14 ปี และ น้องมิ้ว อายุ 16 ปี ขณะกลับจากโรงเรียน โดยคนร้ายใช้ไม้ยาวกั้นถนน เมื่อทั้ง 2 คนจอดรถ ก็ถูกไม้ฟาดได้รับบาดเจ็บ ก่อนชิงทรัพย์ไปเป็นกระเป๋าเงิน และโทรศัพท์มือถือไอโฟน 6เอส เหตุเกิดที่ถนนหนองบัว-หนองสระ-เหล่าค้อ ต.ปอพาน อ.นาเชือก จ.มหาสารคาม เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 30 ต.ค.ที่ผ่านมา ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว อ่านข่าว โจรแสบ ไม้ยาวกั้นถนนให้รถล้ม ก่อนใช้ไม้ฟาดชิงทรัพย์ 2 นักเรียนหญิง เผยเกิดเหตุหลายครั้งแล้ว!!
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 2 พ.ย. พ.ต.ท.อัยรัตน์ ถาวรเรืองฤทธิ์ หัวหน้า สภ.ปอพาน จ.มหาสารคาม กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ส่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ และออกหาข่าวเพื่อหาเบาะแสของคนร้าย ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยมาสอบสวนแล้ว แต่พบว่ายังไม่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องยอมรับว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นทางเปลี่ยว ตลอด 2 ข้างทางเป็นนาข้าว สลับกับป่ามันสำปะหลัง ระยะทางไกลกว่า 5 กิโลเมตรกว่าจะถึงหมู่บ้าน ช่วงเวลาก่อเหตุของคนร้ายจะเป็นช่วงเวลาโพล้เพล้ และเลือกก่อเหตุกับผู้หญิง จากนี้จะได้เจ้าหน้าที่สายตรวจ ออกตรวจตราพื้นที่ดังกล่าวให้ถี่ขึ้น วางกำลังประจำจุดที่ชาวบ้านใช้เข้าออกหมู่บ้าน ครั้งละ 1 ชั่วโมง
ด้าน นายนิวัฒน์ อัญชุลี ปลัดอำเภอ รักษาราชการแทนนายอำเภอนาเชือก เปิดเผยว่า คนร้ายก่อเหตุอุกอาจมากหลังเกิดเหตุร้ายทางฝ่ายป้องกันอำเภอนาเชือก ร่วมกับตำรวจ สภ.ปอพาน และกองกำลังทหารรักษาความสงบเรียบร้อยได้ลงพื้นที่หาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยเบาะแสคนร้ายเป็นคนในพื้นที่ประวัติพัวพันยาเสพติด พฤติกรรมของคนร้ายมุ่งชิงทรัพย์เจ้าทุกข์ที่เป็นผู้หญิง
รายงานข่าวแจ้งว่า ในวันนี้ได้มีการควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งในพื้นที่ที่มีพฤติกรรมพัวพันยาเสพติดไปให้เด็กนักเรียนหญิงทั้ง 2 ชี้ตัวที่ สภ.ปอพาน แต่ผู้เสียหายยืนยันว่าไม่ใช่คนร้าย แต่จากการสอบปากคำเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีเพราะผู้ต้องสงสัยรายนี้ได้ชี้เบาะแสคนร้ายรายหนึ่งเป็นคนที่รู้จักกัน เพราะรูปพรรณที่เจ้าทุกข์ให้ปากคำไว้ โดยผู้ต้องสงสัยรายนี้มีพฤติกรรมพัวพันยาเสพติดและเคยติดคุกมาก่อนหน้านั้น และเดินทางกับมาอยู่ที่บ้านไม่ทำงานอะไร ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทั้งสามฝ่ายได้ลงพื้นที่ออกติดตามตัวคนร้ายรายนี้อย่างเร่งด่วนแต่ยังไม่พบตัวคาดว่าอาจหลบหนีไปแล้ว
ด้าน น้องมิ้ว เปิดเผยว่า วันนี้ได้เดินทางเข้าไปยังตัวอำเภอนาเชือกนำแอปเปิ้ลไอดีไปให้เจ้าหน้าที่เพื่อหาเบาะแสโทรศัพท์ของตน พร้อมกับไปตรวจรักษาอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาลอำเภอนาเชือก เนื่องจากเจ็บบริเวณหน้าอกเพราะถูกคนร้ายใช้ไม้ตี และหลังเกิดเหตุพ่อ แม่ และญาติๆ ได้จัดพิธีผูกแขนสู่ขวัญให้ตนทั้ง 2 คน จากนี้ไปการเดินทางไปเรียนหนังสือก็คงต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะหากยังจับตัวคนร้ายไม่ได้อาจมาก่อเหตุซ้ำได้อีก สำหรับคนร้ายรายนี้ตนจำรูปพรรณได้ชัดเจนถึงแม้จะสวมหมวกปิดบังใบหน้าก็ตาม
