หัวอกพ่อ! เผยเหตุรับผิดแทนลูก ขับเก๋งเสยครูลูก 3 ดับ ตร.ฟันข้อหาชนแล้วหนี

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 7 พ.ย. ที่ สภ.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ น.ส.ชญาดา เครือซุง หลานสาวและญาติของ นางฐานินทรา ฉ่ำชื่น ครูโรงเรียนอนุบาลดรุณนิมิตวิทยา ที่ถูกรถเก๋งชนเสียชีวิต ส่วนลูกอีก 2 คนได้รับบาดเจ็บ บนถนนสายป่าตัน-บ้านท่อ ต.ป่าตัน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 4 พ.ย. เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.สุวัฒน์ ดวงแก้วโต รรท. รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เพื่อขอเร่งรัดและติดตามความคืบหน้าของคดี

หลังจากเกิดกรณีที่ผู้ต้องหา ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์เก๋งได้มีการเปลี่ยนตัวคนขับ โดยให้นายจรัญ เอกโสวรรณ อายุ 66 ปี บิดาของคนขับรถ เดินทางมาจุดเกิดเหตุภายหลัง และรับเป็นคนขับรถแทนลูกชาย แต่มีพยานและภาพจากกล้องวงจรปิดระบุชัดเจนว่า คนขับเป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณ 40-50 ปี สวมเสื้อสีน้ำเงิน กางเกงขาสั้น

พ.ต.อ.สุวัฒน์ ดวงแก้วโต รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ได้รับเรื่องจากผู้เสียหายและรับปากว่าขณะนี้ได้ตั้งกรรมการขึ้นมาทำงาน รวมทั้งมีการประชุมพนักงานสอบสวนเป็นการเร่งด่วนแล้ว ขอให้ทางครอบครัวผู้เสียชีวิตสบายใจว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งทำงานให้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะเรื่องของการเปลี่ยนตัวผู้ต้องหา ตอนนี้ขอเวลารวบรวมพยานหลักฐานไม่เกินช่วงค่ำของวันนี้ จะมีการเชิญตัวทั้งผู้ที่สมอ้างเป็นคนขับและตัวคนขับรถตัวจริงมาดำเนินคดีทั้งคู่

ต่อมาวลา 16.00 น. วันเดียวกัน นายพสิน วรวนาวรรณ อายุ 43 ปี และนายจรัญ เอกโสวรรณ อายุ 66 ปี ผู้เป็นพ่อ พร้อมทนายความ เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก จากนั้น พ.ต.อ.อมรชัย ปัญญา ผกก.สภ.ช้างเผือก ได้ทำการสอบปากคำทั้งสองคน ก่อนเปิดเผยว่า ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามอบตัวและให้การยอมรับสารภาพ เนื่องจากจำนนด้วยหลักฐาน เบื้องต้นจะมีการแจ้งข้อหาชนแล้วหนีกับนายพสิน ส่วนนายจรัญจะถูกแจ้งข้อหาแจ้งความเท็จ ในส่วนของนายพสินนั้น หลังจากการสอบสวนแล้ว อาจจะมีการแจ้งข้อหาให้ผู้อื่นรับผิดแทนด้วย ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวนจะมีการคัดค้านการประกันตัว

ด้านนายพสิน กล่าวยอมรับว่า ตนเป็นคนขับรถเก๋งคันที่เกิดเหตุ และรู้สึกผิดมาก ขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยในวันเกิดได้จอดรถเหตุลงไปดูผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ ขณะที่พ่อเดินทางตามมาที่เกิดเหตุทันทีที่ทราบเรื่อง และเห็นว่าตัวเองตกใจ จึงบอกให้ตัวเองกลับไปบ้านก่อน เพื่อเอาเอกสารต่างๆ กลับมา โดยตัวเองไม่ทราบว่าสุดท้ายแล้วพ่อจะเป็นคนที่แสดงตัวรับผิดแทน รู้สึกผิดมากที่เรื่องกลายเป็นแบบนี้

นายพสิน กล่าวต่อว่า หลังจากนั้นตัวเองและพ่อได้เดินทางไปงานศพของผู้เสียชีวิต พร้อมกราบเท้าขอโทษและยอมรับกับแม่ของผู้เสียชีวิตว่าตัวเองเป็นคนขับ และสำนึกในความผิดของตัวเอง ส่วนเหตุที่พ่อรับผิดแทนนั้น เป็นเพราะพ่อเห็นว่าตัวเองเป็นเสาหลักหาเงินเลี้ยงดูทุกคนในครอบครัว หากติดคดีความเกรงว่าครอบครัวจะเดือดร้อนจึงรับผิดแทน ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมาก

ด้านนายจรัญ กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุทราบว่าลูกชายขับรถชน จึงรีบขี่รถจากบ้านที่อยู่ห่างไปประมาณ 1-2 กิโลเมตร มายังที่เกิดเหตุ แล้วบอกให้ลูกกลับไปบ้าน เพื่อเอาเอกสารมาเตรียมพร้อมแสดงต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ปรากฏว่าระหว่างที่ลูกชายยังไม่กลับมา ทางร้อยเวรได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุก่อน ในเสี้ยวนาทีนั้นตัวเองได้ตัดสินใจยอมรับสารภาพผิดแทนลูกชาย เพราะเห็นว่าตัวเองแก่ชรามากแล้ว ไม่สามารถทำงานหาเงินได้ แต่ลูกชายเป็นเสาหลักที่หาเงินเลี้ยงดูทุกคนในครอบครัว จึงไม่อยากให้มีเรื่อง ยอมรับว่ารู้สึกผิดและเสียใจอย่างมากกับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ พร้อมยอมรับผิดโดยดี

รายงานข่าวแจ้งว่าหลังจากมอบตัวในวันนี้แล้ว ทางพนักงานสอบสวนได้ทำบันทึกการสอบปากคำและประวัตินายพสิน และนายจรัญ ก่อนที่จะปล่อยตัวกลับ โดยนัดส่งสำนวนคดีให้อัยการในวันที่ 8 พ.ย. ส่วนการยื่นขอประกันตัวให้เป็นไปตามดุลยพินิจของศาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (6 พ.ย.) ทางครอบครัวของคนขับรถเก๋งทั้งพ่อ ลูกชาย ลูกสาว และลูกสะใภ้ได้นำเงิน 10,000 บาท ไปมอบให้กับครอบครัวผุ้เสียชีวิต ซึ่งก่อนหน้านี้มอบไปแล้ว 40,000 บาท รวมเป็น 50,000 บาท นอกจากนี้ ได้รับสารภาพต่อหน้าคุณแม่ของผู้เสียชีวิต ที่หน้าหีบศพว่ามีการเปลี่ยนตัวคนขับจริง โดยตัวคนขับอ้างว่าไม่ได้พกใบขับขี่และเพิ่งไปงานเลี้ยงมา

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน