แจ้งจับผู้ใหญ่บ้าน ตุ๋นลงทุนนับ 10 ล้าน หายตัวเป็นเดือน อ้างไม่ได้หนี วอนเห็นใจ

ขรก. พ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้านใน อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ร้องให้หน่วยงานภาครัฐตรวจสอบเอาผิด ผญบ.หลังถูกหลอกยืมเงินรายละตั้งแต่หลักหมื่นหลักล้าน อ้างนำไปร่วมลงทุนมีผลตอบแทนสูงร้อยละ 3 ต่อเดือน มีคนตกเป็นเหยื่อเข้าแจ้งความแล้ว 23 ราย เป็นเงินร่วม 10 ล้าน ขณะ ผญบ.ยอมรับยืมเงินชาวบ้านจริงแต่ไม่ได้หลอกลวง เป็นการยืมมาหมุนเวียนปล่อยกู้และได้ผลประโยชน์จากดอกเบี้ยร่วมกัน

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. ข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้านหลายหมู่บ้านใน ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ได้นำหลักฐานหนังสือสัญญากู้เงิน และเอกสารการแจ้งลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ออกมาร้องเรียนให้ทางอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบเอาผิดนางแดง (นามสมมติ) ผู้ใหญ่บ้านแห่งหนึ่งใน ต.โคกม้า อ.ประโคนชัย โดยระบุว่า ถูกผู้ใหญ่บ้านหลอกยืมเงินรายละตั้งแต่หลักหมื่นจนถึงหลักล้านบาท เพื่อจะนำไปร่วมลงทุนโดยจะมีผลตอบแทนให้ร้อยละ 3 บาทต่อเดือน

ซึ่งช่วงแรกได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยตามที่ผู้ใหญ่บ้านกล่าวอ้างจริง จึงมีข้าราชการ พ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้านหลงเชื่อให้ยืมเงินไปร่วมลงทุนอย่างต่อเนื่อง แต่ระยะหลังกลับไม่ได้รับผลตอบแทนตามที่กล่าวอ้าง เมื่อไปสอบถามก็ถูกบ่ายเบี่ยง จนเวลาผ่านไปเกือบ 3 เดือน ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน

ล่าสุดผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวหายออกจากบ้านไม่สามารถติดต่อได้ เชื่อว่าน่าจะถูกหลอก จึงพากันนำสัญญากู้เงินเข้าแจ้งความลงประทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.ประโคนชัย จำนวน 23 ราย รวมเป็นเงินที่ถูกหลอกยืมไปเกือบ 10 ล้านบาท รวมถึงไปร้องเรียนที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดให้ตรวจสอบกรณีดังกล่าวด้วย

นางยอดวภา นพตลุง หนึ่งในชาวบ้านผู้เสียหาย บอกว่า รู้จักกับผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวมาหลายปีแล้ว และเห็นว่ามีตำแหน่งเป็นถึงผู้ใหญ่บ้าน มีความน่าเชื่อถือ เมื่อมาชักชวนให้ร่วมลงทุนโดยบอกว่าจะมีผลตอบแทนสูงถึงร้อยละ 3 บาทต่อเดือน จึงหลงเชื่อให้ยืมเงินไปร่วมลงทุนหลายครั้ง ครั้งละหลักแสน รวมเป็นเงินที่ให้ผู้ใหญ่บ้านยืมไปกว่า 2,100,000 บาท

นายยอดวภา กล่าวต่อว่า ช่วงแรกได้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยตามที่ผู้ใหญ่บ้านอ้างจริง แต่ระยะหลังเริ่มมีปัญหาไม่ได้ผลตอบแทน และผู้ใหญ่บ้านก็หายไปไม่อยู่บ้านกว่า 1 เดือนแล้ว กลัวว่าเงินที่ยืมไปจะสูญหาย จึงนำหลักฐานไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน และอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบช่วยเหลือ และอยากให้ผู้ใหญ่บ้านออกมาชี้แจงและนำเงินที่ยืมไปมาคืนด้วย

ด้านนางหมื่น เรืองประโคน ชาวบ้านที่ถูกหลอกยืมเงินอีกราย กล่าวว่า ตนถูกผู้ใหญ่บ้านยืมเงินไป 1 ล้าน 5 แสนบาท ซึ่งเป็นเงินที่เก็บสะสมไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิตเมื่อผู้ใหญ่บ้านมาชักชวนให้นำเงินมาร่วมลงทุนจะให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 3 ต่อเดือน จึงหลงเชื่อให้ยืมไป เพราะเห็นว่ามีผลตอบแทนสูง แต่สุดท้ายกลับไม่ได้ทั้งต้นและดอกเบี้ยมาเป็นเวลา 3 เดือนแล้ว และผู้ใหญ่บ้านก็หายตัวไปติดต่อไม่ได้ จึงตัดสินใจไปแจ้งความไว้เป็นหลักฐาน อยากให้ผู้ใหญ่บ้านมาพูดคุยไกล่เกลี่ยกันเรื่องเงินที่ยืมไปว่าจะรับผิดชอบคืนเงินอย่างไร ไม่ใช่เงียบหายไปแบบนี้

ส่วนผู้ใหญ่บ้านที่ถูกกล่าวหาได้ชี้แจงผ่านวิดีโอคอลว่า ไม่ได้หลอกลวงชาวบ้านตามที่ถูกกล่าวหา ยอมรับว่าได้ยืมเงินชาวบ้านจริง แต่เป็นการนำมาลงทุนปล่อยกู้ให้กับผู้ที่เดือดร้อนจำเป็นต้องใช้เงิน ซึ่งชาวบ้านที่ให้ยืมเงินก็รับรู้ เพราะได้รับผลประโยชน์ร่วมกัน คือจะได้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 3 ทั้งแบบรายเดือนและรายสัปดาห์ แต่ระยะหลังเกิดปัญหาเนื่องจากคนที่กู้ยืมเงินไปจ่ายดอกเบี้ยไม่ตรงตามที่ตกลงกันไว้ ทำให้ขาดสภาพคล่องและหมุนเงินไม่ทัน

ผู้ใหญ่บ้านบอกอีกว่า ตนก็แจ้งให้ชาวบ้านที่ทราบแล้ว แต่อาจจะไม่ครบทุกคน ส่วนที่ชาวบ้านกล่าวหาว่าตนมีเจตนาจะหลบหนีนั้นก็ไม่เป็นความจริง เพียงแต่ตนเดินทางไปทำงานที่ต่างจังหวัด เพื่อจะหาเงินมาทยอยใช้หนี้คืนให้กับชาวบ้าน ขอให้ชาวบ้านเห็นใจและให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน