ฮือไล่เจ้าอาวาสพ้นวัด แฉฮุบเงิน-ไม่ยอมตั้งกรรมการ เอาสีกามาอยู่
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 พ.ย. ที่วัดหนองรี ต.หนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี นายธนพนธ์ แก้วขาว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.หนองรี พร้อมด้วยชาวบ้าน ประมาณ 100 กว่าคน รวมตัวกันถือป้ายขับไล่เจ้าอธิการอำนาจ เขมงฺกโร เจ้าคณะตำบลหนองรี อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เพราะเห็นว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่จะเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองรี
นางสุภาพร แผนสมบูรณ์ อยู่ที่บ้านเลขที่ 45/4 หมู่ที่ 2 ต.หนองรี ชาวบ้านที่มาร่วมขับไล่เจ้าอธิการอำนาจ กล่าวถึงพฤติกรรมเจ้าอาวาสว่า เรื่องแรกคือเงินทอดกฐินที่จะบูรณะวัดไม่โปร่งใส ไม่มีการชี้แจงรายได้ของเงินทอดกฐินปีนี้ให้ชาวบ้านได้ทราบ เรื่องเก็บเงินค่าที่ตลาดนัดจากพ่อค้าแม่ค้าที่มาขายของในเขตวัดหนองรี ว่าแต่ละเดือนได้เงินมากน้อยแค่ไหน ไม่รู้ว่าเจ้าอาวาสเอาเงินไปไหน ไม่มีการชี้แจงให้ชาวบ้านได้รับรู้เลย ที่สำคัญไม่ยอมให้มีคณะกรรมการวัด ซึ่งเป็นเรื่องจำเป็นของวัด ทำให้น่าสงสัย
นางสุภาพร กล่าวต่่อว่า นอกจากนี้ยังมีคนเห็นผู้หญิงไปกินนอนอยู่ในวัด มีการปลูกกระต๊อบไว้ท้ายวัดเพื่อให้ผู้หญิงอยู่ เจ้าอาวาสจะมาหาตอนกลางคืน โดยใช้เทียนที่ญาติโยมมาทำบุญ เอามาปักเป็นแถวแล้วจุดไฟ เพื่อให้เห็นทางเดิน เจ้าอาวาสเป็นแบบนี้มานานจนชาวบ้านอดทนไม่ไหว และเลิกมาทำบุญที่วัดนี้กันมานานแล้ว และหันไปทำบุญที่วัดอื่นกันหมด
ด้านนายธนพนธ์ แก้วขาว ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 2 กล่าวว่า ตนและชาวบ้านได้ทำเรื่องร้องเรียนไปยังเจ้าคณะจังหวัด และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ทางสำนักพุทธฯ ส่งเจ้าหน้าที่มาดู แต่ไม่มีหลักฐานที่จะเอาผิดได้ เพราะไม่มีใครได้ถ่ายภาพไว้ มีแต่ตาของชาวบ้านที่เห็นเต็มสองตา นอกจากนี้ยังมีพระที่มาบวชทนเห็นพฤติกรรมของเจ้าอาวาสไม่ได้ จนขอลาสึกในพรรษาไปแล้ว 3 รูป
ต่อมานายธนณัฏฐ์ ศรีสันต์ นายอำเภอบ่อพลอย ได้เดินทางมาที่วัดหนองรี ขณะชาวบ้านกำลังชุมนุม โดยกล่าวกับชาวบ้านว่า ตนจะรับเรื่องทั้งหมดไปเสนอผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี และตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง มีทั้งสำนักพุทธฯ นายกเทศบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และชาวบ้านทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกและให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย เพราะทุกอย่างต้องทำตามกฎหมาย และรับปากว่าจะรีบจัดการเรื่องให้เร็วที่สุด ขอเวลาไม่เกิน 1 เดือน
แต่ชาวบ้านไม่ยอม จึงเกิดการโต้เถียงกัน โดยชาวบ้านให้เวลาแค่ 15 วันเท่านั้น ถ้าภายใน 15 วัน เจ้าอาวาสยังอยู่ ชาวบ้านจะกลับมา จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบเจ้าอธิการอำนาจ พร้อมสอบถามเรื่องที่เกิดขึ้น เจ้าอธิการอำนาจบอกเพียงสั้นๆ ว่า ไม่รู้จุดประสงค์จริงๆ ของชาวบ้านว่าต้องการอะไร ขอให้มันเป็นไปตามวิบากกรรม
