รถพ่วงตีนผี ขับทับป้าวัย 64 ร่างเละ ชิ้นส่วนอวัยวะเกลื่อนถนน เผ่นหนีสติแตก

เมื่อเวลา 17.30 น. วันที่ 13 ธ.ค. ร.ต.อ.สิริชัย สีนิล รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอ่างทอง รับแจ้งอุบัติเหตุรถพ่วงเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณสี่แยกเรือนจำ หมู่ที่ 2 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลอ่างทอง และเจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุบนถนนบริเวณห่างจากสี่แยกมุ่งหน้ามาบนถนนเลี่ยงเมืองประมาณ 5 เมตร พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน กทต 929 อ่างทอง พลิกคว่ำเสียหลักอยู่บริเวณเกาะกลาง ห่างไปเล็กน้อยพบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง 1 ราย ทราบชื่อคือนางทองย้อย จรูญ อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 64/41 หมู่ที่ 3 ต.ศาลาแดง อ.เมือง จ.อ่างทอง สภาพร่างกายถูกรถทับจนแหลกเหลว ชิ้นส่วนอวัยวะกระเด็นกระจัดกระจายเต็มพื้นถนน ในที่เกิดเหตุไม่พบรถคู่กรณี

จากการสอบถามนายอรรถพร ศิริเกสร อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่สมาคมนักวิทยุสมัครเล่นกู้ภัยจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ตนได้รับแจ้งจากเพื่อนที่ทำงานโรงงานว่ามีอุบัติเหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เพื่อนรีบโทรมาแจ้งตนทันที บอกว่าจำหมายเลขทะเบียนรถที่ชนได้ แต่ต้องรีบขึ้นรถไปทำงานโรงงาน โดยแจ้งว่ารถที่ชนเป็นรถพ่วง หมายเลขทะเบียนตัวพ่วงคือ 85-2416

นายอรรถพร กล่าวต่อว่า ขณะเกิดเหตุเหมือนกับว่ารถจักรยานยนต์ขับมาทางซ้ายของรถพ่วง ก่อนที่รถพ่วงจะเบียดจนรถจักรยานยนต์ล้ม แล้วทับคนขี่รถจักรยานยนต์จนเสียชีวิต และขับหลบหนีไปบนถนนเลี่ยงเมือง มุ่งหน้าไปทางสี่แยกที่ดิน หลังตนรับแจ้งก็รีบมาที่เกิดเหตุและประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยกันสกัดจับ

ด้านประชาชนผู้เห็นเหตุการณ์อีกคน ซึ่งขับรถตามหลังมา กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุตนไม่เห็นตอนที่ชน แต่เห็นว่าหลังจากชนแล้ว รถพ่วงได้เบี่ยงขวาออกแล้วขับหนีไปทางสี่แยกที่ดิน

ต่อมาที่บริเวณหน้าโรงเรียนอ่างทองปัทมโรจน์ ต.บ้านอิฐ อ.เมืองอ่างทอง จ.อ่างทอง พ.ต.อ.ประสาทพร ศรีสุขโข ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง และเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจร ตรวจสอบพบรถพ่วงลักษณะและทะเบียนรถคล้ายกับรถที่สงสัยว่าขับทับนางทองย้อยจนเสียชีวิต จึงไปทำการสอบถามนายภานุวัฒน์ สุทนต์ อายุ 32 ปี คนขับรถพ่วง

โดยนายภานุวัฒน์ กล่าวว่า รถพ่วงคันดังกล่าว มีนายชาติ รอดเสียงล้ำ เป็นคนขับ ก่อนเกิดเหตุพวกตนขับรถพ่วงบรรทุกข้าวออกมาจากโรงสีแห่งหนึ่งใน อ.วิเศษชัยชาญ มุ่งหน้าไปส่งยัง จ.นครราชสีมา โดยออกมาพร้อมกัน 4 คัน ตนกับรถพ่วงอีก 3 คันขับนำหน้า ส่วนรถของนายชาติขับมาเป็นคันสุดท้าย เมื่อมาถึงบริเวณสี่แยกเรือนจำ รถตนและพวก 3 คันหน้าได้ขับหลุดจากสัญญาณไฟแดงออกมา ส่วนรถของนายชาตินติดสัญญาณไฟแดงอยู่ หลังจากขับมาเรื่อยๆ ตนพร้อมกับพวกอีก 3 คัน ขับมาจอดแวะกินข้าวกัน กระทั่งตำรวจมาพบ

นายภาณุวัฒน์ กล่าวต่อว่า หลังทราบเรื่องจากตำรวจ ตนก็โทรไปหานายชาติ พอนายชาติรับโทรศัพท์ก็บอกว่าขับรถทับคนตายที่บริเวณแยกเรือนจำ พอนายชาติรู้ก็ตกใจและมีน้ำเสียงเหมือนคนสติแตก แล้ววางสายไป พอตนโทรไปอีกรอบก็ไม่รับโทรศัพท์แล้ว ตนจึงตัดสินใจโทรแจ้งเถ้าแก่ให้ทราบเรื่อง

ร.ต.อ.สิริชัย กล่าวว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า นางทองย้อยขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านพักมาหาเพื่อน ส่วนรถพ่วงขับมาจากทางวิเศษชัยชาญมุ่งหน้าจะข้ามสะพานเลี่ยงเมือง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ รถจักรยานยนต์ได้ขี่มาทางซ้ายของรถพ่วง แล้วถูกรถพ่วงขับเบียดจนล้ม และทับร่างนางทองย้อยจนเสียชีวิต ก่อนขับหลบหนีไป เจ้าหน้าที่จะติดตามคนขับรถพ่วงมาสอบสวน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่ญาติของนางทองย้อยทราบ รีบรุดเดินทางมาดูศพและร้องไห้โฮลงไปกองกับพื้น เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องคอยดูแลใกล้ชิด


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน