พ่อ ด.ญ.วัย 11 เหยื่อ รุมโทรม เปิดใจ ปมเงินบริจาค ยันไม่เคยเปิดรับ มีเพียงชมรมช่างสักเท่านั้นที่ให้ความช่วยเหลือ จ่อเอารถเข้าไฟแนนซ์ เพราะขาดรายได้ รับตอนนี้เหนื่อยมาก โร่ขึ้นโรงพักไม่รู้ลูกหายไปไหน

รุมโทรม จากกรณี เด็กหญิงวัย 11 ปี โดนฉุดไปรุมโทรม โดยกลุ่มวัยรุ่น 5 คน ก่อนจะกลายเป็นเรื่องบานปลาย และพบว่ามี อบต.คนหนึ่งเข้าไปเกี่ยวข้อง พยายามจะเคลียร์และจ่ายเงินให้จบเรื่อง แต่พ่อไม่ยอมและบันดาลโทสะทำร้ายร่างกายกัน จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุได้ทั้ง 5 คน ขณะที่ผู้เป็นพ่อแฉมีถึง 9 คน แถมเพื่อนลูกสาวที่ไปด้วยกันก็ถูกรุมโทรมไปด้วย จากนั้นตำรวจได้คุมตัวทั้ง 5 คนไปส่งสถานพินิจ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 20 ธ.ค. ที่ สภ.เมืองสระบุรี พ่อของ ด.ญ.วัย 11 ปีที่ถูกแก๊ง 5 โจ๋ฉุดไปรุมโทรม พร้อมเพื่อนได้เดินทางมาพบกับ พ.ต.อ.เรืองยศ โสภาพล ผกก.สภ.เมืองสระบุรี โดยได้เข้าพูดคุยกับผู้สื่อข่าวว่ามาตามหาลูกสาว เนื่องจากว่าไม่รู้หายไปไหน จากนั้นได้เข้าพูดคุยกับ พ.ต.อ.เรืองยศ โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จึงออกมาจากห้อง เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ลูกสาวหายไปไหน พ่อของเด็กก็ตอบว่า ผมก็ไม่ทราบ จากนั้นผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่ามีการลงในโลกโซเชียลว่ามีการขอความช่วยเหลือรับบริจาคเงินในหน้าเฟซบุ๊ก จริงหรือไม่?

พ่อเด็ก กล่าวว่า ตนไม่เคยขอความช่วยเหลือจากใคร เนื่องจากว่ามีพี่ๆ ทางชมรมเกี่ยวกับงานสัก ที่ตนเป็นสมาชิกอยู่ ซึ่งเขาอยากจะช่วยเหลือตน ซึ่งเขารู้ว่าตอนนี้ตนขาดรายได้ เนื่องจากไม่ได้ทำงาน และต้องดำเนินการในเรื่องคดีความ ซึ่งเงินที่ได้มาในการช่วยเหลือก็เป็นเงินที่ได้มาจากเฉพาะในชมรมของตน ซึ่งไม่เกี่ยวกับบุคลภายนอกใดๆ ตนก็ตกลง และเป็นเงินที่ไม่ได้เยอะหรือมากมาย เนื่องจากสมาชิกในชมรมมีกันไม่กี่คน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

“ผมขอยืนยันว่าไม่เคยคิดขอรับบริจาคเงินช่วยเหลือจากใคร และในตอนนี้ผมคิดว่าจะเอารถไปเข้าไฟแนนซ์ แต่ตามที่เป็นข่าวว่ามีการลงหน้าเฟซบุ๊กขอความช่วยเหลือนั้นเป็นเรื่องจริง ซึ่งผมก็รับทราบ แต่มันไม่ใช่ขอรับจากคนภายนอก เป็นการที่พี่ๆ ช่างสักในชมรมให้ความช่วยเหลือมาก็แค่นั้น ผมไม่อยากให้คนอื่นๆ มาเดือดร้อนกับผมในเรื่องนี้ ตอนนี้ผมมีภาระเยอะ หาเงินคนเดียวใช้ทั้งบ้าน ผมยอมรับว่าตอนนี้เหนื่อยมาก กับปัญหาหลายๆ อย่างที่เข้ามา” พ่อเด็ก กล่าว

พ่อเด็ก กล่าวต่อว่า ส่วนในเรื่องทางคดีความตอนนี้ตนรู้สึกพอใจกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก รู้สึกไม่หนักใจอะไรเลยในตอนนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจให้คำปรึกษาได้ดีมาก ส่วนในเรื่องที่ตนเข้าไปทำร้ายร่างกายกลุ่มวัยรุ่น พร้อมด้วยพ่อของเด็ก และ อบต.นั้น ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้เรียกตนเข้าไปรับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับตัวเด็กนั้น ทราบว่าแม่ได้ไปอยู่กับย่าที่ ต.หินกอง กับย่า ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในการให้ความช่วยเหลือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน