ศาลรับฟ้องแล้ว! ทีมปลัดล่าหมีขอ อ่วม 17 ข้อหา เร่งตามจับอีก 1

จากกรณีนายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค น.ส.เนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค และเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษผู้พิทักษ์อุทยานแห่งชาติและสัตว์ป่า (ชุดพญาเสือ) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ร่วมกันจับกุมนายวัชรชัย สมีรักษ์ หรือ ปลัดแมน ปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี พร้อมพวก 14 คน ในคดีล่าหมีขอที่บริเวณป่าเขาพลู หมู่ 8 ต.วังกระแจะ อ.ไทรโยค เมื่อวันที่ 7 ต.ค.

สำหรับคดีนี้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รอง ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่ติดตามคดีด้วยตนเอง และแต่งตั้งทีมพนักงานสอบสวนชุดเดียวกันกับการทำคดีล่าเสือดำ ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันตก พร้อมสั่งกำชับให้พนักงานสอบสวน รวบรวมสำนวนคดีส่งให้อัยการจังหวัดกาญจนบุรี พิจารณาสั่งฟ้องให้ได้โดยเร็ว

ต่อมาวันที่ 4 ธ.ค. พล.ต.ต.สุวิทย์ ชาวศรีทอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.พูนศักดิ์ ประเสริฐเมธ รอง ผบก.ภ.จว.กาญจนบุรี นำพนักงานสอบสวนคดีหมีขอ ประกอบด้วย พ.ต.อ.ชาตรี.ศรีบุญ พ.ต.อ.พิพัฒน์ รุ่งสัมพันธ์, พ.ต.อ.สมศักดิ์ สุวรรณฉิม พ.ต.อ.บุญรัตน์ เพลินคู่ธรรม พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ ไชยภูมิสกุล ผกก.(สอบสวน) ภ.จว.กาญจนบุรี พ.ต.อ.ธานี สงวนจีน ผกก.ไทรโยค และพ.ต.ท.เชาวฤทธิ์ อินทกรอุดม รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.ไทรโยค นำแฟ้มสำนวนคดีดังกล่าว ส่งมอบให้กับนายทนง ตะภา อัยการจังหวัดกาญจนบุรี

ในวันดังกล่าวมีนายสมโภชน์ ลิ้มตระกูล อธิบดีอัยการ ภาค 7 รวมทั้ง นายสุวิช ชูตระกูล รองอธิบดีอัยการ ภาค 7 นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด เดินทางมาร่วมรับมอบสำนวนและแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนด้วย

ล่าสุดเมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 28 ธ.ค. นายทนง ตะภา อัยการจังหวัดกาญจนบุรี นายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด ได้นำแฟ้มสำนวนไปที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี ถ.แม่กลอง ต.ปากแพรก อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เพื่อยื่นฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 14 คน โดยศาลได้ประทับรับฟ้องเป็นคดีหมายเลขดำที่ 7349/2561 ซึ่งมีผู้ต้องหา 13 คน อยู่ระหว่างการฝากขัง ยกเว้นนายเจนระ หรือจีระ ชาวกะเหรี่ยง ที่หลบหนีหมายจับ

นายทะนง ตะภา อัยการจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยก่อนยื่นฟ้องว่า วันนี้อธิบดีอัยการภาค 7 มีคำสั่งฟ้องทุกข้อหาตามที่พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหามา แต่มีผู้ต้องหาบางคนที่สั่งไม่ฟ้องในบางข้อหา ซึ่งทางตำรวจภูธรภาค 7 ไม่ได้มีความเห็นแย้ง อัยการจึงนำคำร้องมายื่นฟ้องต่อศาล

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อน ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการยื่นฟ้องครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีจึงแล้วเสร็จ หลังจากนั้นนายทะนง ตะภา อัยการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ออกมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชนอีกครั้งหนึ่งว่า ตอนนี้ศาลได้ประทับรับฟ้องเอาไว้พิจารณาแล้ว เดี๋ยวศาลคงจะกำหนดวันนัดอีกครั้งหนึ่ง ในทางคดีคงมาว่ากันในชั้นพิจารณาว่า ฝ่ายจำเลยจะให้การอย่างไร ส่วนของคณะทำงานได้พิจารณาในส่วนของสำนวน และได้มีการฟ้องผู้ต้องหาเป็นจำเลยในวันนี้ได้ทันเวลาที่กำหนดฝากขังตามสำนวนคำฟ้อง

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า สำหรับจำเลยทั้ง 14 คน ประกอบด้วย 1.น.ส.ศรีวิจิตร ดิษฐ์แช่ม 2.นายทัศดนัย ขอกระโชก 3.นายฉัตรชัย เกาะลอย 4.นายจิรชัย ตันติวัฒนสิทธิ์ 5.ว่าที่ ร.ต. สุนทร มาเจริญรุ่งเรือง 6.นายสกานต์ แก่งหลวง(อส.ด่านมะขามเตี้ย) 7.นายอนุสรณ์ เรือนงาม (อส.ออย) 8.นายประสาน เต็มธนัน 9.นางอรุณ แสงใส 10.นายถาวร เซี่ยงหลิว 11.นายวัชรชัย สมีรักษ์ (ปลัดอำเภอด่านมะขามเตี้ย) 12.นายสมเกียรติ เพ็งนาเรนทร์ 13.นายตาต้า ชาวกะเหรี่ยง และ 14.นายจีระ หรือเจนระ ชาวกะเหรี่ยงที่อยู่ระหว่างการหลบหนีหมายจับ

โดยอัยการจังหวัดกาญจนบุรี มีความเห็นสั่งฟ้องรวม 17 ข้อหา ดังนี้ “สั่งฟ้องจำเลยที่ 1-12 ฐานร่วมกันนำยานพาหนะเข้าออกหรือครับขี่ยานพาหนะในทางที่มิได้จัดไว้เพื่อการนั้นร่วมกันนำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์หรือจับสัตว์หรืออาวุธใดใดเข้าไปในอุทยานแห่งชาติ”

“สั่งฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 6 ที่ 7 ที่ 8 ที่ 11 ที่ 13 และที่ 14 ฐานร่วมกันยิงปืนในเขตอุทยานแห่งชาติ”

“สั่งฟ้องผู้ต้องหาที่ 6 ที่ 7 ที่ 11 ที่ 13 และที่ 14 ฐานร่วมกันนำสัตว์ออกไปหรือทำด้วยประการใดๆให้เป็นอันตรายแก่สัตว์”

“สั่งฟ้องจำเลยที่ 6 ที่ 7 ที่ 13 ที่ 14 ฐานร่วมกันล่าหรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ร่วมกันยิงสัตว์ป่าในระหว่างพระอาทิตย์ตกและพระอาทิตย์ขึ้น”

“สั่งฟ้องจำเลยที่ 6 ที่ 7 ที่ 11 ที่ 13 และที่ 14 ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์ป่าสงวนสัตว์ป่าคุ้มครองซากของสัตว์ป่าสงวนหรือซากของสัตว์ป่าคุ้มครอง ร่วมกันซ่อนเร้นช่วยพาไปเสียประการใด ซึ่งสัตว์ป่าหรือซากของสัตว์ป่าอันได้มาโดยการกระทำผิด”

“สั่งฟ้องจำเลยที่ 6 ที่ 7 ที่ 11 ที่ 13และที่ 14 ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าหรือกระทำด้วยประการใดอันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสวนแห่งชาติ”

“สั่งฟ้องจำเลยที่ 1 ที่ 2 ที่ 6 ที่ 7 ที่ 8 ที่ 11 ที่ 13 ที่ 14 ฐานพาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีใบอนุญาตและไม่มีเหตุสมควร”

“สั่งฟ้องจำเลยที่ 6 ที่ 7 ที่ 13 และที่ 14 ฐานร่วมกันมีอาวุธปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง”

“สั่งฟ้องจำเลยที่ 7 ฐานมีเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในครอบครอง และมีเครื่องยุทธภัณฑ์ (เครื่องบังคับเสียง) ไว้ในครอบครอง”

“สั่งฟ้องจำเลย ที่ 3 ที่ 4 ที่ 5 ที่ 6 ที่ 7 ที่ 10 ที่ 11 ที่ 13 และที่ 14 ฐานร่วมกันบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ภายในบริเวณวัดหรือสถานที่ปฏิบัติพิธีกรรมทางศาสนา”

หลังจากศาลประทับรับฟ้องแล้วศาลได้นัดจำเลยทั้ง 13 คน มารับฟังคำฟ้องในวันที่ 2 ม.ค. 2562 สำหรับนายเจนระ หรือจีระ จำเลยที่ 14 ขณะนี้อยู่ระหว่างการหลบหนี ซึ่งเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีให้ได้ตามหมายจับของศาล


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน