จากกรณี ด.ญ.วัย 13 ปี ถูกลวงไปรุมโทรมที่ห้องน้ำในโรงเรียนแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 28 ธ.ค.ที่ผ่านมา ก่อนที่ตำรวจจะติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายได้ทั้งหมด 7 คน อายุระหว่าง 14-22 ปี โดยแบ่งเป็นเยาวชนอายุไม่ถึง 18 ปี 4 คน และผู้ที่อายุเกิน 18 ปี อีก 3 คน ก่อนที่ 3 ผู้ต้องหาที่อายุเกิน 18 ปี จะได้รับการประกันตัว ส่วน 4 ผู้ต้องหาเยาวชน ถูกคุมตัวอยู่ที่สถานพินิจ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว รวบ 7 โจ๋ทรชน ลาก ดญ.13 รุมโทรม คาห้องน้ำโรงเรียน อ้างยินยอมเอง

ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 31 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงเรียนที่เกิดเหตุ โดยพบกับ นายจิต (นามสมมติ) นักการภารโรงของโรงเรียนดังกล่าว ได้พาผู้สื่อข่าวเดินไปดูบริเวณห้องน้ำที่เกิดเหตุ ซึ่งอยู่ด้านหลังอาคารเรียน ก็พบว่าบริเวณพื้นภายในห้องน้ำ ยังมีร่องรอยดินโคลนเปรอะเปื้อนอยู่ ยังไม่ได้มีการทำความสะอาด เนื่องจากพนักงานสอบสวนเพิ่งนำตัว ด.ญ.ผู้เสียหาย มาชี้จุดเกิดเหตุไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ทั้งนี้ยังพาไปดูจุดที่พบกล่องใส่ถุงยางอนามัยที่ถูกแกะใช้แล้วจำนวน 1 กล่อง ตกอยู่บริเวณข้างกำแพงโรงอาหาร ใกล้กับห้องน้ำที่เกิดเหตุ ซึ่งก็สอดคล้องกับข้อมูลของเจ้าหน้าที่ที่ได้เก็บถุงยางอนามัยที่มีคราบอสุจิติดอยู่ไปเป็นหลักฐานก่อนหน้านี้แล้ว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ทั้งนี้ นายจิต ยังระบุด้วยว่า คืนดังกล่าวตนก็มาเข้าเวรที่โรงเรียนตามปกติ แต่ช่วงเกิดเหตุเป็นเวลากลางดึกแล้ว ประกอบกับมีฝนตกหนักด้วย จึงไม่ได้ยินเสียงรถจยย. หรือเสียงร้องขอความช่วยเหลือ เพิ่งมาทราบข่าวช่วงสายของวันต่อมาก็รู้สึกตกใจมาก ไม่คาดคิดว่าจะมาเกิดเหตุลักษณะดังกล่าวในโรงเรียน ถึงแม้ว่าผู้เสียหาย หรือผู้ก่อเหตุไม่ได้เรียนอยู่ในโรงเรียน แต่ก็สร้างความเสื่อมเสียให้กับโรงเรียนด้วย

ขณะที่ครูในโรงเรียน ก็ออกมายอมรับว่า ผู้ก่อเหตุบางคนเคยเป็นลูกศิษย์ตอนสมัยเรียนประถม ส่วน ด.ญ.ผู้เสียหาย ไม่ได้เรียนที่โรงเรียนแห่งนี้ แต่เมื่อทราบข่าวก็รู้สึกตกใจมากไม่คาดคิดว่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น อยากจะฝากถึงวัยรุ่น เยาวชน ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จะทำอะไรควรคิดไตร่ตรองให้รอบคอบ

ควรนึกถึงอนาคตและผลกระทบที่จะตามมา เพราะหากทำผิดพลาดไปแล้วไม่สามารถกลับไปแก้ไขอะไรได้ ทางที่ดีควรจะเชื่อฟังพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรออกไปเที่ยวเตร่ตอนกลางค่ำกลางคืน หากจะไปไหนควรจะไปกับผู้ปกครองก็จะปลอดภัยมากที่สุด ส่วนมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยขึ้นในโรงเรียนอีก ก็จะประชุมหารือร่วมกับผู้นำชุมชน และผู้ปกครองต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน