จากกรณี นางประภา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด 9 มม. ยิง นายอนุวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำกลางลำปาง ซึ่งเป็นสามีได้รับบาดเจ็บสาหัส และ น.ส.ฐิติชดา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี เป็นเจ้าของร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ซึ่งเป็นกิ๊กของสามี เสียชีวิต เหตุเกิดที่หน้าร้านของเสื้อผ้ามือสอง ถนนข้างวัดนาก่วมใต้ ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (9 ม.ค.) ก่อนที่ นางประภา จะรอมอบตัวกับตำรวจ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 10 ม.ค. ที่บ้านเลขที่ 9 ถนนวัดนาก่วมใต้ ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง นายศรีลา ตันบุศย์ อายุ 74 ปี นายชวลิต ตันบุศย์ อายุ 43 ปี พ่อและพี่ชาย พร้อมญาติพี่น้องของ น.ส.ฐิติชดา ได้นิมนต์พระจากวัดหนองพระเจ้าทันใจ หมู่ 3 ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง จำนวน 4 รูป มาทำพิธีสวดถอนวิญญาณผู้ตายบริเวณที่เกิดเหตุตามประเพณีความเชื่อของชาวล้านนา

นายศรีลา กล่าวว่า ถอนศพ คือการถอนดวงวิญญาณของผู้ตายให้ออกจากจุดนั้นๆ เชื่อกันว่าเมื่อคนตาย ณ ที่ใด วิญญาณของผู้ตายก็จะติดอยู่ตรงนั้นไม่ไปไหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นการตายโหง ก็จำเป็นต้องทำพิธีถอนเสียก่อน วิญญาณของผู้ตายจึงจะไปจากที่นั้น ดังนั้นเมื่อจะนำศพออกไปฝังหรือเผาจึงต้องถอนให้วิญญาณไปกับศพด้วย จะได้ไปผุดไปเกิด ไม่หลอกหลอนอยู่ที่บริเวณนั้น ญาติจะนิมนต์พระสงฆ์มาทำพิธีสวดถอน และนำธงกระดาษมาปักในสะตวง 4 อันวางไว้ตรงจุดที่เกิดอุบัติเหตุนั้นก่อนนำสะตวงไปทิ้งที่ป่าช้า

ด้านญาติผู้ตาย กล่าวว่า เมื่อคืนวันเกิดเหตุหลังจากนำศพส่ง ร.พ.ลำปาง ได้กลับมาความสะอาดบ้านและล้างคราบเลือดผู้ตาย จากนั้นได้กลับบ้านนอนเวลาประมาณ 02.00 น. ขณะกำลังเคลิ้มหลับได้เห็นผู้ตายสวมชุดขาวห่มขาว ยืนโบกมือลาที่บริเวณหน้าบ้านผู้ตายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม เชื่อว่าผู้ตายไปดีแล้ว และตอนมีชีวิตยังเคยบอกว่า ถ้าตายให้สวมชุดนุ่งขาวห่มขาวให้ เพราะชอบไปวัดทำบุญ และนับถือเจ้าแม่กวนอิม

ขณะที่ นายชวลิต กล่าวว่า อยากขอความเป็นธรรมให้กับน้องสาวที่ถูกกล่าวหาว่าไปแย่งสามีชาวบ้าน ซึ่งไม่เป็นความจริง น้องสาวเป็นคนรักครอบครัวและญาติพี่น้องทุกคน ได้เลิกกับสามีคนเก่าตั้งแต่ลูกยังเล็กกว่า 25 ปีมาแล้ว ขณะลูกชายอายุ 24 ปี และลูกสาวอายุ 23 ปี ทำงานเลี้ยงลูกคนเดียวมาตลอดและยังเลี้ยงดูแม่อายุ 73 ปี หลานอีกสองคน ไม่เคยไปขอเงินใครมาเลี้ยงลูก แม้กระทั่งเปิดร้านขายเสื้อผ้ามือสอง ก็ไปยืมเงินเขามาลงทุน เนื่องจากเคยไปทำงานที่โรงงานทอผ้าเกาหลี เมื่อกลับประเทศไทย จึงสั่งเสื้อผ้าแฟชั่นหลีมาขาย เพื่อเลี้ยงลูกและดูแลแม่ ไม่ได้เอาเงินผู้ชายมาลงทุนแต่อย่างใด

นายชวลิต กล่าวต่อว่า อยากให้ผู้ต้องหาพูดความจริง เพราะชาวบ้านทั่วไปก็รู้ว่าเป็นคนนิสัยอย่างไร บอกว่าเอาเงินเดือนมาปรนเปรอให้น้องสาวที่เป็นกิ๊ก ซึ่งไม่เป็นความจริง ที่บ้านและครอบครัวของเราเป็นครอบครัวใหญ่ มีบ้าน มีรถเหมือนคนทั่วไป ทำมาหากินเองได้ จำเป็นต้องไปแย่งผัวชาวบ้านเพื่ออะไร คนที่ไม่รู้ข้อเท็จจริงอาจจะว่าน้องสาวในทางไม่ดี เป็นชู้สาว ซึ่งไม่เป็นความจริง ทั้งที่คนก็ตายไปแล้วไม่สามารถพูดได้ หลังจากที่ฝ่ายชายมาติดพันเคยพูดคุยกับน้องสาวให้ระวังตัว เพราะภรรยาฝ่ายชายเคยเอาขยะมาทิ้งที่หน้าบ้าน และขว้างรองเท้าใส่ร้านก็เคยทำมาแล้ว แต่น้องสาวก็ไม่เคยตอบโต้ เพราะฝ่ายภรรยาเข้าใจผิดคิดว่าสามีตนเองเป็นกิ๊กกับน้องสาว

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

นายชวลิต กล่าวอีกว่า ก่อนที่น้องสาวจะรู้จักกับ นายอนุวัฒน์ เนื่องจากลูกสาวติดคุกในคดียาเสพติด เมื่อเป็นคดีน้องสาวก็ต้องติดต่อประสานงานกันทั้ง ตำรวจ อัยการ ศาล ย่อมรู้จักเจ้าหน้าที่เมื่อคดีถึงที่สุด ลูกสาวต้องโทษติดคุกก็ได้มาเยี่ยมเยียน ก็เจอกับ นายอนุวัฒน์ ซึ่งเป็นผู้คุมเมื่อ 1 ปีที่ผ่านมา ก็ได้ฝากฝังดูแลลูกสาว ในฐานะคนรู้จักกัน ประสานเพื่อความสะดวกในการเข้าเยี่ยมเยียนลูกที่เรือนจำ ไม่ได้มีอะไรกันเป็นพิเศษ แต่ นายอนุวัฒน์ พยายามมาหาที่ร้าน โทรคุย ชวนไปทานข้าวแต่ไม่เคยไปด้วย หรือซื้อกับข้าวมาทำกินที่บ้าน มาอาบน้ำที่บ้าน ซึ่งน้องสาวเห็นว่าล้ำเส้นเกินกว่าคนรู้จักกัน จึงบอกให้ นายอนุวัฒน์ ไม่ต้องมาหาที่บ้าน แต่ก็ยังพยายามมาหาอยู่ จนทำให้นางประภา เข้าใจผิดว่าเป็นกิ๊กแย่งผัวชาวบ้าน

“จนกระทั่งเคยมาอาละวาดด่าน้องสาวอย่างเสียๆ หายๆ ที่ร้านดังกล่าว จากนั้นน้องสาวได้ให้แม่มาอาศัยอยู่เป็นเพื่อนด้วย เพื่อกันไม่ให้ นายอนุวัฒน์ มาทำกิจกรรมอะไรที่บ้านเพราะอาจจะทำให้ภรรยาคิดในทางไม่ดี ซึ่งน้องสาวก็บอกตลอดว่าไม่ได้มีอะไรกัน ไม่ได้คิดชู้สาว และไม่ได้คิดอะไร เพียงคนรู้จักให้ช่วยเหลือดูแลลูกสาวในเรือนจำเท่านั้น แต่ นายอนุวัฒน์ คิดอย่างไรไม่รู้ เพราะน้องสาวเป็นแม่ค้าขายเสื้อผ้า ต้องพูดจาดีกับลูกค้า มีคนชอบจนทำให้เกิดเข้าใจผิดคิดว่าสามีมาติดพันน้องสาวและเอาเงินซื้อทองให้ใส่ ซึ่งทองที่ใส่ก็ผ่อนรายวัน ไม่ได้เอาเงิน นายอนุวัฒน์ มาซื้อ จึงขอให้ความเป็นธรรมและเข้าใจในจุดนี้ด้วย ซึ่งในวันที่ 12 ม.ค.นี้ นัดกันจะไปทำบุญเยี่ยมเยียนญาติที่ จ.เชียงใหม่ เป็นประจำทุกปี แต่มาถูกยิงเสียชีวิตเสียก่อน” นายชวลิต กล่าว

สำหรับศพ น.ส.ฐิติชดา ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดหนองพระเจ้าทันใจ ต.ต้นธงชัย อ.เมือง จ.ลำปาง ระหว่างวันที่ 10-12 ม.ค. โดยในคืนวันนี้มีพ่อแม่ และญาติพี่น้องเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพและจะทำพิธีฌาปนกิจศพในเวลา 13.00 น.วันที่ 13 ม.ค. ที่สุสานบ้านหนองพระเจ้าทันใจ อ.เมือง จ.ลำปาง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน