สาวพระแสงซิ่งเก๋งฝ่าสายฝน เสียหลักพุ่งชนตอไม้กลางถนนที่สิชล ดับ 1 เจ็บ 1

เมื่อเวลา 08.15 น.วันที่ 13 ม.ค.62 ร.ต.อ.อุทัย ยอดราช รอง สว.(สอบสวน) สภ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช รับแจ้งเหตุรถยนต์เก๋งเสียหลักตกลงร่องเกาะกลางถนน ชนตอไม้ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย ที่หน้าโรงเรียนบ้านเขาฝ้าย ถนนสายนคร-สุราษฎร์ หมู่ 7 ต.ทุ่งใส อ.สิชล จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงพร้อมกับ พ.ต.อ.โชคดี รักษ์วัฒนพงษ์ ผกก. สภ.สิชล แพทย์เวร รพ.สิชล หน่วยกู้ภัยกู้ชีพเทศบาลตำบลทุ่งใส และมูลนิธิใต้เต๊กตึ้งสิชล รีบรุดไปที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุบริเวณเกาะกลางถนนพบรถยนต์เก๋งยี่ห้อนิสสันรุ่นอัลเมร่า สีดำ ทะเบียน ขก-1634 สุราษฎร์ธานี ด้านหน้ารถชนอัดกับตอไม้ที่หักโค่นช่วงเกิดพายุปาบึกพังยุบเสียหายยับเยิน ภายในรถพบผู้บาดเจ็บสาหัส 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันงัดซากรถเก๋งแล้วนำร่างคนเจ็บทั้ง 2 ส่ง รพ.สิชล อย่างรีบเร่ง โดยทางแพทย์พยาบาลได้พยายามช่วยเหลือชีวิตอย่างเต็มที่ แต่ปรากฏว่า 1 ใน 2 คนเจ็บทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา รพ.ดังกล่าว

จากการสอบสวนทราบผู้เสียชีวิตชื่อนางสรัญญา แสงคำ อายุ 33 ปี เป็นชาว อ.พระแสง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นคนขับรถเก๋งคันดังกล่าว อยู่ในสภาพมีบาดแผลฟกช้ำตามลำตัวแขนขาและคอหัก อยู่ในชุดสวมเสื้อยืดสีน้ำตาล นุ่งผ้าถุงลายดอกสีชมพู ส่วนคนเจ็บซึ่งเป็นคนนั่งโดยสารมาด้วยอาการสาหัส ทราบชื่อ น.ส.ชลลดา รู้รักษา อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 111 หมู่ 1 ต.ตาวัง อ.บัวเชด จ.สุรินทร์ สภาพมีแผลฟกช้ำทั่วร่างกาย ซึ่งอยู่ในการดูแลของแพทย์พยาบาลอย่างใกล้ชิด

จากการสอบสวนของตำรวจทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นางสรัญญา ผู้ตายได้ขับรถยนต์เก๋งจากบ้านพักใน จ.สุราษฎร์ธานี มุ่งหน้าไปบ้านญาติใน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ไปตามถนนสายดังกล่าวด้วยความเร็วฝ่าสายฝนที่กำลังตกหนักตลอดเส้นทาง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถได้เสียหลักพุ่งลงในร่องกลางถนน 4 เลนชนตอไม้ที่หักโค่นล้มเมื่อช่วงเกิดพายุปาบึกอย่างจัง ทำให้นางสรัญญาบาดเจ็บสาหัสและไปเสียชีวิตที่ รพ.

ส่วนสาเหตุที่ทำให้รถเสียหลักในครั้งนี้ทางตำรวจสันนิษฐานว่า น่าจะเกิดจากฝนตกทำให้ถนนลื่นทำให้รถเสียการทรงตัวลื่นไถลตกถนนดังกล่าว จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในที่สุด อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุในครั้งนี้เพื่อดำเนินการตามกฏหมาย และหลังจากทำการชันสูตรพลิกศพเสร็จแล้วจึงมอบศพให้กับญาตินำศพไปจัดการตามประเพณีต่อไป


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน