วันที่ 16 ม.ค. นายโยป (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี ชาว ต.บ่อน้ำร้อน อ.กันตัง จ.ตรัง ได้พา ด.ช.เอ (นามสมมติ) หลานชาย วัย 10 ขวบ ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งใน อ.กันตัง จ.ตรัง เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.สมชาย แสงศรี สารวัตร (สอบสวน) สภ.กันตัง เพื่อขอลงบันทึกประจำวัน หลังถูกครูสอนวิชาทัศนศิลป์ ตีถึง 53 ที เพราะวาดภาพได้น้อยกว่าคนอื่น
นายโยป กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา หลานชายส่งการบ้านวิชาวาดเขียนไม่ทัน รวมทั้งเพื่อนร่วมชั้นเรียนอีก 4 คน จึงถูกครูสาวท่านหนึ่งซึ่งสอนวิชาทัศนศิลป์ ลงโทษด้วยการใช้ไม้เรียวตีก้นคนละ 43 ที ยกเว้นหลานชายที่ถูกตีถึง 53 ที เพราะวาดภาพได้น้อยกว่าคนอื่น จึงถูกตีมากกว่าเพื่อนๆ
ส่งผลให้หลานชายก้นเขียวช้ำ จนต้องนอนซมและไปโรงเรียนไม่ได้ แต่ไม่ยอมบอกผู้ปกครอง กระทั่งตนซึ่งเป็นลุง เพิ่งมาทราบเรื่องเมื่อวานนี้ (15 ม.ค.) เนื่องจากหลานชายไม่ยอมไปโรงเรียน จนไปเห็นบาดแผลถึงกับตกใจและน้ำตาไหลนองหน้า จึงรีบพาหลานชายไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลกันตัง โดยแพทย์ลงความเห็นว่า มีบาดแผลฟกช้ำที่ก้น และให้นอนพักที่บ้าน 1 วัน
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เมื่อติดต่อไปทางโรงเรียน ผู้อำนวยการแจ้งว่าให้รออีก 2-3 วัน เพราะมีขั้นตอนทางโรงเรียน จากนั้นก็หายเงียบไปเลย ทำให้ผู้ปกครองเสียใจมาก เพราะตั้งแต่เลี้ยงหลานมา ยังไม่เคยตีหนักถึงขนาดนี้ ตนจึงพาหลานชายมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.กันตัง เพื่อไม่ต้องการให้หลานชายต้องเจ็บตัวฟรี เพราะเมื่อเห็นบาดแผลแล้วรู้สึกใจหาย ซึ่งตนทำใจไม่ได้ จึงอยากให้ครูออกมารับผิดชอบและขอโทษกันเพียงแค่นั้น
ขณะที่ ด.ช.เอ กล่าวว่าหลังเกิดเหตุรู้สึกกลัวครูมาก และไม่กล้าที่จะไปโรงเรียนอีก แต่ถ้าครูมาขอโทษและเจรจาก็จะยอมไปโรงเรียน
อย่างไรก็ตาม เมื่อผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าว เนื่องจากวันนี้เป็นวันครู จึงมีการปิดการเรียนการสอน แต่ได้รับคำตอบจากครูรายหนึ่งว่า เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวน
