จากกรณี นายธีรพล ปิ่นอมร หรือปุ๊ อายุ 38 ปี ยิงนายวิรัตน์ กิ่งแก้ว พ่อตา และนางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ลูกสาวซึ่งเป็นภรรยาของนายธีรพล เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 177 หมู่ 1 ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ และยิง นางน้ำผึ้ง อินทรสิทธิ์ แม่ยาย, นางน้ำผา อินทรสิทธิ์ พี่สาวฝาแฝดของนางน้ำผึ้ง และนางกนกวรรณ อินทรสิทธิ์ พี่สาวของนางน้ำผึ้ง เสียชีวิต เมื่อวันที่ 13 ม.ค. ก่อนที่เช้าวันที่ 15 ม.ค. ตำรวจจะสามารถจับกุมตัวนายธีรพล ได้ที่ จ.ระนอง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 17 ม.ค. ที่วัดเกาะวารี ต.พญาแมน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ นายเอกราช กำแหง และนางสุพัตรา กำแหง น้องสาวของ นางกัญญารัตน์ กิ่งแก้ว ภรรยา นายธีรพล ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจว่า เรื่องที่พี่สาวหลอกเอาเงิน 20 ล้านไม่เป็นความจริง ของที่เขาเอามาให้เขาซื้อมาเอง เวลาทะเลาะก็ขอคืน รถก็เอาไปเกือบหมดแล้ว บันทึกประจำวันมี ช่วงที่มาอยู่ได้ประมาณ 4 เดือน ก็ซื้อรถมา แต่ซื้อเป็นมือ 2 เป็นชื่อพ่อกับพี่สาว เวลาทะเลาะกันเขาก็มาขอคืน พ่อกับพี่สาวก็คืนให้ โดยมีบันทึกประจำวันที่โรงพักว่าคืนทรัพย์สินทุกอย่างแล้ว ส่วนบ้านก็คืนให้ แต่ปุ๊ไม่มาเอาไป แล้วไปบอกว่าทางเราไม่คืน
วันเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน ออกไปซื้อต้นไม้กับแฟน กลับมา 5 โมงเย็น เห็นพ่อกับพี่สาวซ้อน จยย. แล้วปุ๊ก็ขี่รถตามมา พอมาถึงก็คุยกันปุ๊ก็ง้อพี่สาวให้ขึ้นรถไปด้วย พี่สาวบอกว่า “มึงไปเสพยาบ้ามา ให้โอกาสกี่ครั้งแล้ว” จากนั้นก็เถียงกันไปมา ส่วนพ่อก็บอกให้โอกาสมากี่ครั้งแล้ว จากนั้นปุ๊ก็บอกจะให้พี่สาวเซ็นเอกสารอะไรซักอย่าง พ่อก็บอกว่าจะเซ็นให้ไปเซ็นที่โรงพัก พูดได้แค่นั้นปุ๊ก็ยิงเลย ตนได้ยิงเสียงจึงออกมาดูก็ถูกปุ๊ไล่ยิง จึงวิ่งหนีวนรอบรถ ก่อนหนีได้ ซึ่งถ้าปุ๊ไม่ชะงักเสียก่อนคงตามไล่ยิงตนทันแน่นอน
ส่วนที่ปุ๊อ้างว่า จะเอาของคืนแล้วทางเราบอกว่าให้ไปฟ้องที่โรงพักนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นความจริง พ่อกับพี่สาวไม่คยพูด ซึ่งเวลาปุ๊เสพยามาก็จะชอบทำร้ายพี่สาว และก่อนจะเกิดเหตุประมาณ 1 เดือน ปุ๊กับพี่สาวทะเลาะกันหนัก แล้วพี่สาวก็ถูกปุ๊เอาเข็มขัดรัดคอด้วย โดยก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ แต่ระยะหลังไปเสพยาและดื่มเหล้า จึงมีพฤติกรรมแบบนี้ รวมทั้งหึงหวงหนักมาก ผู้ชายมายืนใกล้พี่สาวก็ไม่ได้หาว่าเป็นชู้ ขนาดญาติกันมายืนอยู่ใกล้ๆ ยังหึง
นอกจากนี้ยังทราบว่าปุ๊ มีประวัติล้มละลายมาก่อน ซึ่งตอนแรกๆ ที่ปุ๊มา ก็อ้างตัวว่าเป็นทหาร ชอบเล่นหุ้น มีบริษัทรับเหมา แต่ช่วงหลังๆ ไม่ไปทำงาน ก็มาอยู่ที่บ้าน แต่ไม่ได้เข้าบ้านจะพักตามโรงแรมนั้นโรงแรมนี้ และก็เคยถามปุ๊ว่า พี่ไม่ไปทำงานเหรอ ปุ๊ก็บอกว่ามีเลขาคอยดูแลอยู่ ขณะเดียวกันปุ๊ยังชอบคุยโวว่ามีเงินเป็น 100 ล้านบาท สำหรับเรื่องที่ปุ๊ไปโกงเงินเขามา 29 ล้านบาทนั้น ไม่รู้เลย เพิ่งจะรู้ตอนที่เป็นข่าว นอกจากนี้ทางครอบครัวก็ไม่เคยไปขอทรัพย์สินอะไรจากปุ๊เลย มีแต่เขาเคยเอาเงินมาให้พ่อ 1 ล้านบาท ตอนทำบ้านเท่านั้น
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
ตอนแรกที่อยู่กับพี่สาว ตั้งใจจะแต่งกันเดือนนี้ รอบ้านเสร็จก็จะแต่ง ซึ่งแพลนงานไว้ตั้งแต่ช่วงกลางปีที่แล้ว และช่วงก่อนที่จะเกิดเหตุก็มีคุยจะไปถ่ายพรีเวดดิ้งแต่มาทะเลาะและเกิดเรื่องกันก่อน สำหรับที่มีข่าวว่าพี่สาวท้องนั้น ไม่เป็นความจริง ผลชันสูตรออกมาแล้วไม่ท้อง 100 % นอกจากนี้ปุ๊ยังเคยเอาปืนมาขู่หลายครั้ง แต่ไม่เคยยิง เพิ่งจะมาลงมือครั้งนี้ โดยทุกครั้งก็จะไปลงบันทึกประจำวันไว้ ก่อนหน้านี้ปุ๊เคยขับรถมาแถวบ้าน เอาปืนขู่ พี่สาวกลัวว่าคนในบ้านจะมีภัยจึงยอมคืนดีด้วย ซึ่งถ้าปุ๊ไม่เสพยาดื่มเหล้าก็จะไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าว จะนิ่งๆ ไม่สร้างปัญหา เชื่อว่ามาจากยาเสพติด
ซึ่งปุ๊เคยสาบานว่าจะเลิกยา แล้วจะบวช แต่พอบวชได้ 3 วันสึกแล้วกลับไปเสพยาต่อ ขณะนี้กลัวว่าถ้าปุ๊ได้ประกันตัวออกมาได้จะมาทำร้ายครอบครัวอีก โดยตลอดเวลาปุ๊พยายามโทษครอบครัวเราตลอด ซึ่งอยากพูดอะไรก็พูดไป ส่วนเรื่องคดีก็อยากให้เป็นไปตามกฎหมาย ถามว่าอยากอโหสิกรรมหรือไม่ ตอนนี้รู้สึกเฉยๆ อยากให้รับกรรมที่ทำไป
อยากบอกคนที่ตายว่าไม่ต้องห่วงที่เหลือจะดูแลเอง ส่วนบ้านหลังนั้นจะเอาไปทำอะไรก็เอาไป จะคืนทรัพย์สินให้ทั้งหมด ไม่อยากเก็บไว้ที่บ้าน หลังเกิดเหตุทางครอบครับของปุ๊ไม่เคยมาขอโทษ และทางตนไม่เคยรู้จักด้วย มีแต่พี่สาวเคยไปหา ถ้าตอนนี้ปุ๊จะมาขอโทษ ก็ไม่อยากให้มา ไม่อยากเห็นหน้า
ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก “อุตรดิตถ์ 24 ชั่วโมง”
