แม่โวย ลูกชาย 4 ขวบ ถูกแกล้งหนัก ไฟลุกท่วมตัวสาหัส คู่กรณีจ่ายแค่ 2 ร้อย
ไฟลุกท่วมตัวสาหัส – เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 21 ม.ค. ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ถนนรังสิต-นครนายก คลอง7 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นางเอ (นามสมมติ) อายุ 27 ปี นำ ด.ช.บี (นามสมมติ) ลูกชายวัย 4 ขวบ เข้าร้องทุกข์ต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กรณี ด.ช.บี ถูก ด.ช.ซี (นามสมมติ) อายุ 7 ขวบ เป็นรุ่นพี่เอาน้ำมันใส่ขวดน้ำอัดลมและจุดไฟก่อนที่จะเตะใส่ไฟลุกท่วมตัวจนบาดเจ็บสาหัส ที่ผ่านมาทางพ่อแม่ของ ด.ช.ซี ที่ก่อเหตุ ไม่เคยมาดูแลช่วยเหลือ
นางเอ กล่าวว่า หลังตนเลิกรากับสามีเก่าได้ฝากลูกชายไว้กับย่า อายุ 58 ปี อาศัยในพื้นที่ ต.สระแก้ว อ.เมือง จ.กำแพงเพชร โดยตนทำงานขับรถส่งของตามต่างจังหวัด นานๆจะไปเยี่ยมลูกสักครั้ง แต่จะส่งเงินให้ลูกทุกเดือน กระทั่งเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาเดินทางไปเยี่ยมลูกที่บ้านย่า ก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าลูกชายมีสภาพรอยแผลเป็นเต็มตัว แต่ที่ผ่านมาย่าไม่เคยบอกว่าลูกไปเป็นอะไร
นางเอ กล่าวต่อว่า เมื่อสอบถามย่าจึงเล่าว่าเมื่อวันศุกร์ที่ 12 ต.ค. 61 ขณะที่ ด.ช.ซี วัย 7 ขวบ ลูกของเพื่อนบ้านเอาน้ำมันเบนซินใส่ขวดน้ำอัดลมแล้วเตะขวดใส่ลูกชายของตนจนไฟลุกท่วมตัว แล้วได้วิ่งหนีไปกระโดดลงอ่างน้ำบริเวณใกล้เคียงจนไฟดับลง ระหว่างนั้นมีเพื่อนบ้านมาเห็น จึงไปตามย่าที่ทำงานรับจ้างอยู่ไม่ไกลก่อนพาส่งโรงพยาบาล โดยต้องรักษาตัวนานกว่า 24 วัน ขณะที่พ่อแม่ของเด็กที่ก่อเหตุ ไม่เคยมาเหลียวแลหรือยื่นมาช่วยเหลือแต่อย่างใด
ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
นางเอ กล่าวต่อว่า หลังเกิดเรื่องย่าได้แจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกำแพงเพชร หลังไปเยี่ยมลูกแล้วต้องเจอสภาพแบบนี้ ตนรับไม่ได้จึงขอรับลูกกลับมาดูแลเอง ถึงแม้จะต้องไปทำงานตามต่างจังหวัดก็ตาม ช่วงนี้ก็ให้ลูกนั่งรถไปด้วยเพราะคิดว่าดูแลเองจะดีกว่าซึ่งผู้ปกครองของเด็กที่ทำร้ายลูกของตนนั้นได้ให้เงินเยียวยาแค่ 200 บาท และยังมาบอกอีกว่าถ้าอยากได้มากกว่านี้ก็ให้ไปฟ้องเอาเอง
ด้านนางปวีณา ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กล่าวว่า หลังรับเรื่องรู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะผู้กระทำเป็น ด.ช. อายุเพียง 7 ขวบ เท่านั้น โดยมูลนิธิปวีณาฯ ได้มอบเงินช่วยเหลือนางแหม่มกับลูกชายจำนวนหนึ่ง และประสาน พ.ต.อ.วรชิต จันทร์วงศ์ ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร ช่วยให้ความเป็นธรรม พร้อมประสาน นายธวัชชัย ไทยเขียว รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เพื่อนัดหมายให้เจ้าหน้าที่พานางเอกับลูกชายเข้าทำเรื่องขอรับเงินเยียวยาผู้เสียหายทางคดี พร้อมกันนี้จะได้ประสานกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้าให้การช่วยเหลือต่อไป
