วันที่ 21 ม.ค. ร.ต.ท.(หญิง) จิราภรณ์ วันโท รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองสุรินทร์ ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้ ภายในอาคารกองร้อยอาสารักษาดินแดนสุรินทร์ที่ 1 (อส.สุรินทร์ ที่ 1) ถนนสายสุรินทร์-ปราสาท ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงประสานรถน้ำดับเพลิงจาก อบต.เฉนียง, อบต.นอกเมือง และ อบจ.สุรินทร์ ก่อนนำกำลังรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นอาคาร 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ โดยชั้นบนเป็นที่เก็บอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ซึ่งเพลิงกำลังลุกไหม้ต้นเพลิงเป็นห้องเก็บอาวุธปืนเอ็ม 16 กว่า 100 กระบอก เป็นอาวุธปืนที่ใช้สำหรับการปฏิบัติงานของ อส.จังหวัดสุรินทร์ พร้อมด้วยเครื่องกระสุน และปืนพกสั้น ปืนลูกซองยาวกว่า 10 กระบอก ขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งฉีดน้ำสกัดเปลวเพลิงก็มีเสียงกระสุนปืนแตก ดังเป็นระยะๆ เจ้าหน้าที่และอาสากู้ภัย ต้องใช้ความระมัดระวังในการเข้าฉีดน้ำดับเพลิง โดยใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

เบื้องต้นพบว่าไฟไหม้อาคารไปกว่าครึ่ง อาวุธปืนเอ็ม 16 ปืนพกสั้น ปืนลูกซองยาว รวมแล้ว กว่า 116 กระบอก และเครื่องกระสุนปืนจำนวนหนึ่งถูกไฟไหม้ไปทั้งหมด พร้อมกับเครื่องใช้สำนักงาน รถยนต์เก่าอีก 1 คัน ขณะที่เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนสุรินทร์ ที่ 1 ได้ช่วยขนสิ่งของสัมภาระ ที่นอน และอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ ออกจากอาคารได้บางส่วนเท่านั้น ส่วนที่เอาออกมาได้ยังถูกไฟไหม้เสียหายด้วยเช่นกัน

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ด้าน อส.ทำเนียบ โพธิราช หมู่ใหญ่ ทำหน้าที่สิบเวร ประจำวันกองร้อยอาสารักษาดินแดนสุรินทร์ที่ 1 กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุไฟไหม้ ตนได้เดินดูความเรียบร้อย อยู่ข้างๆ ห้องเก็บอาวุธปืน จากนั้นก็ได้ยินดังขึ้นที่ห้องคลังอาวุธ เป็นเสียงคล้ายกับเสียงปล่อยลมยางรถยนต์ พอแหงนหน้าขึ้นไปมองเห็นเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นที่ชั้นบนห้องคลังอาวุธขึ้นอย่างรวดเร็วและได้แจ้งให้ อส.ช่วยกันขนสัมภาระสิ่งของต่างๆ ในอาคารออก เท่าที่จะทำได้ ก่อนแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงมาช่วยเหลือ

ส่วนอาวุธปืนที่ถูกไฟไหม้ เป็นอาวุธปืนเอ็ม 16 ปืนพกสั้น ปืนลูกซองยาวกว่า 116 กระบอก และกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง แต่ต้องตรวจสอบบัญชีอาวุธก่อนว่ามีจำนวนเท่าไหร่ที่แน่นอน ตนเชื่อว่าไฟไหม้เกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะอาคารสร้างมานานกว่า 40 ปี สายไฟฟ้ามีอายุใช้งานมานานมาก เกรงว่าจะเกิดการลัดวงจรขึ้น

ขณะที่ ร.ต.ท.(หญิง) จิราภรณ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุรินทร์ ได้เก็บหลักฐานบันทึกภาพ ลงบันทึกประจำวัน และจะได้เชิญเจ้าหน้า อส.สุรินทร์ ที่ 1 ไปให้ปากคำเพื่อสอบถามหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการ ตำรวจภูธรสุรินทร์ ตรวจสอบหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ที่แท้จริงต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน