เมื่อวันที่ 23 ก.ย. ที่หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสมชาย บำรุงทรัพย์ รองผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ และพล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รองผบก.ภาค 7 รักษาการ ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม สนองนโยบายรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวในการป้องกันเหตุ โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ
ทั้งนี้ เป็นการสนธิกำลังร่วมกับกองกับกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตำรวจทางหลวง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจรถไฟ ตำรวจน้ำ ตำรวจสันติบาล ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองประจวบฯ เครือข่ายอาสาสมัคร รวมทั้งสิ้น 422 นาย และยานพาหนะ รถจักรยานยนต์สายตรวจ 10 คัน และรถยนต์ของหน่วยต่างๆ รวม 19 คัน ระดมกวาดล้างอาชญากรรม ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ “ปิดเมือง สยบโจร โค่นอิทธิพล” ระหว่างวันที่ 23-29 ก.ย.2559
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า การปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมครั้งนี้ ต่อยอดจากแผนยุทธการพิทักษ์หัวหิน และประจวบร่วมเย็น ที่ประสบความสำเร็จ โดยรอบนี้มุ่งเน้นที่อาวุธปืน อาวุธสงคราม วัตถุระเบิด ยาเสพติด คดีค้างเก่า แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย การจัดระเบียบสังคม เงินกู้นอกระบบ ผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้าง เป็นสำคัญ ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน หากมีเบาะแสข้อมูล แจ้งมาที่ศาลากลางจังหวัด สถานีตำรวจ หน่วยทหารและอำเภอทุกแห่ง เราจะเข้าปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย 100% ฝากเตือนผู้ไม่หวังดี ผู้ก่อเหตุทั้งหลาย วันนี้ตำรวจจับมือกับทุกภาคส่วน หากไม่หยุดการกระทำผิดและต่อสู้ขัดขวาง จะใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดทุกกรณี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผลดำเนินการตามแผนยุทธการพิทักษ์หัวหิน สามารถจับกุมผู้ต้องหาความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและวัตถุระเบิดได้ผู้ต้องหา 67 คน อาวุธปืน 71 กระบอก ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด จับกุมผู้ต้องหา 124 คน ยาบ้า 4,884 เม็ด ไอซ์ 20.56 กรัม กัญชา 67.19 กรัม และกระท่อม 7,608.77 กรัม นอกจากนี้ยังจับกุมผู้ต้องหาคดีค้างเก่า แรงงานต่างด้าว การพนัน เมาสุรา ฯลฯ รวมผลการจับกุมผู้ต้องหา 346 คน
ขณะที่แผนยุทธการประจวบร่มเย็น กวาดล้างผู้ทำผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนและวัตถุระเบิด จับกุมผู้ต้องหา 71 ราย ได้อาวุธปืน 71 กระบอก, ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดได้ผู้ต้องหา 131 ราย ยาบ้า 5,031 เม็ด ยาไอซ์ 21.76 กรัม กัญชา 67.19 กรัม กระท่อม 7,608.77 กรัม, จับกุมผู้ต้องหาคดีค้างเก่า 11 ราย และความผิดเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าว 92 ราย, การพนัน 28 ราย, ออกตรวจสถานบริการ 108 แห่ง, ประมงผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์อีก 41 คดี, ตรวจเรือประมง 50 ลำ รวมจับกุมผู้ต้องหาทั้งสิ้น 324 ราย
