วันที่ 11 ก.พ. พล.ต.ต.ทินณะรัตน์ เพ็ชรพันธ์ศรี ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.กาฬสินธุ์ ร่วมกับ พ.ต.อ.ทวีรัชต์ ศรีธวัชพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ รักษาการในตำแหน่ง ผกก.สภ.ยางตลาด พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เข้าควบคุมตัว นายสมยศ เหล่าแสลง อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่ 5 ต.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ พ่อค้าหมู ที่ถูกกล่าวหาว่าทำสัญญาซื้อขายหมูกับชาวบ้านจำนวน 4 ราย เพื่อตกลงนำหมูมาส่งในงานบวช แต่ได้เงินไปแล้วกลับไม่นำเนื้อหมูมาส่งตามที่นัดหมาย สูญเงินไปกว่า 2 แสนบาท จนถูกชาวบ้านแจ้งความจับ

โดยเจ้าหน้าที่ได้ไปคุมตัวได้ที่บ้านพักใน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ก่อนที่นำตัวมาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ เพื่อสอบปากคำ เบื้องต้น นายสมยศ รับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าได้ทำสัญญาซื้อขายกับชาวบ้านที่เป็นเจ้าภาพงานบวชที่บ้านหนองบัว ต.คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ จำนวน 4 ราย และชาวบ้านได้มีการจ่ายเงินมาให้แล้ว 201,000 บาทจริง โดยมีชาวบ้านที่เป็นผู้เสียหายเดินทางมาชี้ตัวด้วย

ด้าน พ.ต.ท.ปฏิวัติ ประวิเศษ รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำ นายสมยศ เบื้องต้นได้รับสารภาพว่าได้ทำสัญญาและเอาเงินกับชาวบ้านมาจริง โดยบอกกับชาวบ้านทั้ง 4 รายว่าจะนำหมูมาส่งในงานบวชตามสัญญา ซึ่งจะนำมาส่งไม่ตรงกัน ขึ้นอยู่กับวันเวลาที่จัดงานบวช บางรายวันที่ 7 ก.พ. บางรายวันที่ 8 ก.พ.และบางรายวันที่ 9 ก.พ. แต่พอถึงวันนัดกับเจ้าภาพงานบวชหรือผู้เสียหาย กลับไม่นำเนื้อหมูมาส่ง นายสมยศ อ้างมีปัญหาทางการเงิน เมื่อนำเงินจากผู้เสียหายไปแล้วจึงไม่มีเงินหมุนเวียนไปซื้อเนื้อหมูมาส่งเจ้าภาพ ทำให้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกดังกล่าว ส่วนที่จะเคยมีประวัติก่อเหตุในลักษณะเดียวกันหรือไม่ อยู่ระหวางขยายผล

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

พ.ต.ท.ปฏิวัติ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม จากการตามสอบถามเบื้องต้นกับทางเจ้าทุกข์และสอบปากคำผู้ต้องหา จะสามารถตกลงความความกันได้ แต่เมื่อผู้ต้องหาไม่มีเงินจำนวน 201,000 บาท มาคืนให้กับผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกง และนำไปพิมพ์นิ้วมือ ก่อนนำตัวไปฝากขังที่ศาล จ.กาฬสินธุ์ต่อไป

ด้านนายไกรวัลย์ ภูประวัติ อายุ 49 ปี พี่เขยนางประทุมทอง อิศาสตร์ เจ้าภาพงานบวช กล่าวว่า ผู้เสียหายทุกคนต้องการเงินคืนเท่านั้น ส่วนข้อหาอื่นและคดีทางอาญาขึ้นอยู่ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะแจ้งข้อกล่าวหา แต่ในเมื่อไม่สามารถไกล่เกลี่ยกันได้ และนายสมยศ พ่อค้าหมูไม่มีเงินนำมาคืนให้ ก็ฝากความหวังไว้กับกระบวนการพิจารณาของเจ้าหน้าที่ ที่จะดำเนินการตามขั้นตอน

นายไกรวัลย์ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่เจ้าภาพงานบวชถูกพ่อค้าขายเนื้อหมูหลอกทำสัญญา แล้วนำเงินกว่า 2 แสนหนีไป แม้จะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวมาดำเนินคดี แต่ยังไม่สิ้นสุด เพราะไม่มีเงินนำมาคืน ต้องเสียโอกาส เสียเวลาให้เจ้าหน้าที่สอบปากคำอีก ขอให้เหตุการณ์นี้เป็นบทเรียนราคาแพงให้ประชาชนทั่วไปได้ระวังตัว เพราะเชื่อว่าทำกันเป็นขบวนการ

“โดยก่อนที่จะทำสัญญานั้นนายสมยศ ได้สร้างความน่าเชื่อถือด้วยการเป็นเสี่ยพ่อค้าหมู เปลี่ยนรถยนต์หลายคัน และหลังจากเซ็นสัญญาและรับเงินไปแล้ว ก็จะพาลูกค้าที่เป็นชาวบ้านขับรถตระเวนไปดูตามฟาร์มหมูในสถานที่ต่างๆ แต่ไม่ใช่ฟาร์มของตัวเอง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ สุดท้ายเป็นเพียงเสี่ยกำมะลอ หลวกลวงชาวบ้านที่หลงเชื่อ ทำให้เดือดร้อน และสูญเสียเงินทองอย่างนี้” นายไกรวัลย์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน